xs
xsm
sm
md
lg

งานประกวดพลุนานาชาติเฉลิมพระเกียรติฯ ที่เมืองพัทยายิ่งใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - กระทรวงกลาโหม จับมือร่วมเมืองพัทยา จัดงานประกวดพลุนานาชาติเฉลิมพระเกียรติฯ "ดวงประทีปพราวนภา เทิดราชาราชินี บารมีศรีแผ่นดิน ครั้งที่ 5"

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา และนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมกันเป็นประธานเปิดงาน“งานแสดงและประกวดพลุนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ ดวงประทีปพราวนภา เทิดราชาราชินี บารมีศรีแผ่นดิน ครั้งที่ 5” รอบชิงชนะเลิศ ที่บริเวณริมชายหาด พัทยากลาง จังหวัดชลบุรี

กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อร่วมถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนารถ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ซึ่งทางคณะผู้จัดงานได้จัดงานเฉลิมฉลองต่อเนื่องกันตั้งแต่ปี 2552-2554

สำหรับการแสดงและประกวดพลุนานาชาติเฉลิมพระเกียรติฯ รอบชิงชนะเลิศ ครั้งที่ 5 เป็นส่วนหนึ่งของการร่วมเฉลิมฉลองในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 โดยครั้งนี้มีประเทศที่เข้าร่วมแสดงถึง 9 ประเทศ ได้แก่ เดนมาร์ก เยอรมนี อิตาลี สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และไทย ส่วนประเทศคู่แข่งขันชิงชนะเลิศ คือ สห รัฐอเมริกา และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ดูไบ) จะทำการแข่งขันในวันที่ 17 ธันวาคมนี้

นอกจากนี้ ในคืนวันที่ 17 ธันวาคม ยังมีไฮไลท์ใหญ่ ที่ประเทศผู้แสดงพลุถึง 9 ประเทศ จะร่วมแสดงในคืนเดียวกันและจะยิงพลุสร้างสถิติโลกครั้งสำคัญด้วยพลุยักษ์ขนาด 24 นิ้วจำนวน 7 นัดพร้อมกัน หมายถึงพระชนมพรรษา 7 รอบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะสุกสว่างตระการตา เต็มพื้นที่อ่าวพัทยา และการแตกตัวของพลุครั้งนี้จะสร้างพลุที่กว้างที่สุดในโลก ซึ่งจะกว้างกว่า 3 กิโลเมตร

ขณะเดียวกัน ประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมต่างนำพลุที่เป็นจุดเด่นของแต่ละประเทศมาร่วมแสดงนับหมื่นดวง ซึ่งทั้งหมดจะสร้างความโดดเด่นและน่าชมให้กับงานแสดงและประกวดพลุนานาชาติเฉลิมพระเกียรติฯ ครั้งนี้

ขณะที่บรรยากาศการเปิดงานวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา พบว่าเป็นไปด้วยความตื่นตาตื่นใจจากการแสดงพลุหลากสีสันมากมายจำนวนนับหมื่นนัด โดยมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมชมบรรยา กาศนับแสนคน ส่งผลให้การจราจรในพื้นที่ติดขัดอย่างหนัก


กำลังโหลดความคิดเห็น