ศูนย์ข่าวขอนแก่น -ป.ป.ส.ติวเข้ม 55 อำเภอภาคอีสานตอนบนรับมือยาเสพติดทะลักช่วงเทศกาลปีใหม่ ตามแผนปฏิบัติการ 7 แผน 4 ปรับ 3 หลัก 6 เร่ง เผย กลุ่มเยาวชนอายุต่ำกว่า 15 ปี มีแนวโน้มใช้ยาเสพติดเพิ่มขึ้น โดยยาบ้ายังคงเป็นตัวยาเสพติดหลักที่แพร่ระบาดมากที่สุด ขณะที่ยาไอซ์ มีแนวโน้มที่จะระบาดเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (16 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมศรีจันทร์ โรงแรมเจริญธานี ปริ๊นเซส ขอนแก่น นายเพิ่มพงษ์ ชวลิต รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส.เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนการดำเนินการด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่อำเภอเน้นหนัก ป.ป.ส.ภ.4 โดยมีนายอำเภอ และผู้กำกับการสถานีตำรวจ รวมไปถึงผู้แทนจากศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดและศุนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ในพื้นที่ 55 อำเภอ เน้นหนัก 12 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน รวมกว่า 200 คนเข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้
นายเพิ่มพงษ์ ชวลิต รองเลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวว่า ยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดเป็นยุทธศาสตร์หลักที่สำคัญที่จะต้องดำเนินการ ภายใต้กรอบ 7 แผน 4 ปรับ 3 หลัก 6 เร่ง เพื่อให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยึดเป็นหลักในการขับเคลื่อนงานยาเสพติด และมีเป้าหมายในการลดการขยายตัวของปัญหายาเสพติดในภาพรวมทั่วประเทศ และพื้นที่เป้าหมายสำคัญโดยไม่ให้ปัญหายาเสพติดส่งผลต่อความมั่นคง และปลอดภัยของประชาชน
ทั้งนี้ ได้มีการกำหนดเป้าหมายของการปฎิบัติการ ที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ 308 อำเภอเน้นหนักทั่วประเทศ และในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในความรับผิดชอบของ ป.ป.ส.ภ.4 ซึ่งมีพื้นที่เป้าหมาย 55 อำเภอ ในการประชุมครั้งนี้เป็นการติวเข้มในเรื่องของการบูรณาการการทำงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การขับเคลื่อนงานตามยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดในพื้นที่อำเภอเน้นหนัก
ควบคู่ไปกับการกำหนดกลยุทธ์การดำเนินงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ในพื้นที่ความรับผิดชอบ รวมทั้งเป็นการวางกรอบการปฏิบัติในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ให้บรรลุเป้าหมายตามแผนปฎิบัติการที่ได้กำหนดไว้
คำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ได้กำหนดให้การแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ที่จะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และน้อมนำกระแสพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในเรื่องยาเสพติดมาปฎิบัติให้สำเร็จลุล่วง โดยการกำหนดพื้นที่เรดโซน 55 อำเภอเน้นหนัก ที่ ป.ป.ส.จะต้องดำเนินการไปอย่างคู่ขนานทั้งในด้านของการป้องปรามและปราบปราม
ทั้งนี้ จากข้อมูลล่าสุด พบว่า พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นพื้นที่ที่ต้องจับตาเป็นอย่างมาก
เพราะการสกัดกั้นในภาคเหนือเข้มแข็ง จับกุมได้มาก ส่งผลให้กลุ่มนักค้าเปลี่ยนเส้นทางการนำเข้าทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งกลุ่มนักค้ารายใหญ่จากนอกภาคหลายกลุ่มเปลี่ยนเส้นทางมานำเข้าทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และการนำเข้าของกลุ่มนักค้าเครือข่ายของกลุ่มนักค้าตามหมายจับที่หลบหนีไปค้ายาเสพติดนอกประเทศ
ขณะเดียวกัน จากข้อมูลที่ได้มานั้นยังคงพบว่ากลุ่มนักโทษในเรือนจำคลองเปรม บางขวาง หลายกลุ่มเปลี่ยนทิศทางมานำเข้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และการปราบปรามกลุ่มผู้ค้ารายใหญ่ในประเทศเพื่อนบ้านดำเนินการได้น้อย
รองเลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวเพิ่มเติมว่า 12 จังหวัดภาคอีสานตอนบน พบว่า มีการเพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดระดับต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ค้ารายย่อย ขณะที่กลุ่มผู้ค้ารายใหญ่ รายกลาง ที่เคยมีพฤติการณ์กลับมาเคลื่อนไหวทำการค้ายาเสพติดเพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มผู้ค้ารายย่อยที่เป็นผู้เสพ ผันตัวมาเป็นผู้ค้าเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ กลุ่มผู้ค้ารายใหม่มีสัดส่วนสูง โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนที่มีอายุ 15-19 ปี ทั้งที่อยู่ในระบบการศึกษาและนอกการศึกษา ขณะเดียวกันยังคงพบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้ามาเกี่ยวข้อกับยาเสพติดจำนวนมาก ทั้งที่เป็นผู้ดำเนินการเอง และสนับสนุนช่วยเหลือ ประกอบกับราคายาบ้าในพื้นที่ต่างๆ มีราคาลดลง อีกทั้งกลุ่มผู้ใช้หลัก จะเป็นกลุ่มอาชีพรับจ้างว่างงาน เกษตรกร และกลุ่มนักเรียนนักศึกษาและมีอายุที่ใช้ยาเสพติดครั้งแรกอยู่ระหว่างอายุ 15-19 ปี
กลุ่มผู้ใช้ที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตัวยาที่แพร่ระบาด ยาบ้ายังคงเป็นตัวยาหลักที่แพร่ระบาดมากที่สุด และยาไอซ์ มีแนวโน้มที่จะระบาดเพิ่มมากขึ้นในระยะนี้ทำให้การดำเนินการของ ปปส.ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ จะต้องเพิ่มความเข้มงวดมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลพบว่าพื้นที่ จ.ขอนแก่น ประกอบด้วย อ.เมือง, ชุมแพ, พล, กระนวน,บ้านไผ่ และ อ.น้ำพอง จ.อุดรธานี ประกอบด้วย อ.เมือง, ศรีธาตุ, วังสามหมอ, นายูง, น้ำโสม และ อ.เพ็ญ จ.มหาสารคาม ได้แก่ อ.เมือง, โกสุมพิสัย, กันทรวิชัย, บรบือ, เชียงยืน, พยัคฆภูมิพิสัย และ อ.วาปีปทุม จ.นครพนม ประกอบด้วย อ.บ้านแพง, นาทม, ศรีสงคราม,โพนสวรรค์, ท่าอุเทน, ธาตุพนม, นาแก, นาหว้า และ อ.เรณูนคร
จ.สกลนคร ประกอบด้วย อ.เมือง, กุสุมาลย์, วาริชภูมิ, สว่างแดนดิน, นิคมน้ำอูน และ จ.กาฬสินธุ์ ประกอบด้วย อ.กุฉินารายณ์, คำม่วง, เมือง, หนองกุงศรี, สมเด็จ, ห้วยผึ้ง, ยางตลาด, กมลาไสย และ อ.เขาวง เป็นพื้นที่ที่ ป.ป.ส.จะต้องปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจังและเต็มที่ที่สุด
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (16 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมศรีจันทร์ โรงแรมเจริญธานี ปริ๊นเซส ขอนแก่น นายเพิ่มพงษ์ ชวลิต รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส.เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนการดำเนินการด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่อำเภอเน้นหนัก ป.ป.ส.ภ.4 โดยมีนายอำเภอ และผู้กำกับการสถานีตำรวจ รวมไปถึงผู้แทนจากศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดและศุนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ในพื้นที่ 55 อำเภอ เน้นหนัก 12 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน รวมกว่า 200 คนเข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้
นายเพิ่มพงษ์ ชวลิต รองเลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวว่า ยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดเป็นยุทธศาสตร์หลักที่สำคัญที่จะต้องดำเนินการ ภายใต้กรอบ 7 แผน 4 ปรับ 3 หลัก 6 เร่ง เพื่อให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยึดเป็นหลักในการขับเคลื่อนงานยาเสพติด และมีเป้าหมายในการลดการขยายตัวของปัญหายาเสพติดในภาพรวมทั่วประเทศ และพื้นที่เป้าหมายสำคัญโดยไม่ให้ปัญหายาเสพติดส่งผลต่อความมั่นคง และปลอดภัยของประชาชน
ทั้งนี้ ได้มีการกำหนดเป้าหมายของการปฎิบัติการ ที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ 308 อำเภอเน้นหนักทั่วประเทศ และในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในความรับผิดชอบของ ป.ป.ส.ภ.4 ซึ่งมีพื้นที่เป้าหมาย 55 อำเภอ ในการประชุมครั้งนี้เป็นการติวเข้มในเรื่องของการบูรณาการการทำงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การขับเคลื่อนงานตามยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดในพื้นที่อำเภอเน้นหนัก
ควบคู่ไปกับการกำหนดกลยุทธ์การดำเนินงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ในพื้นที่ความรับผิดชอบ รวมทั้งเป็นการวางกรอบการปฏิบัติในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ให้บรรลุเป้าหมายตามแผนปฎิบัติการที่ได้กำหนดไว้
คำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ได้กำหนดให้การแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ที่จะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และน้อมนำกระแสพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในเรื่องยาเสพติดมาปฎิบัติให้สำเร็จลุล่วง โดยการกำหนดพื้นที่เรดโซน 55 อำเภอเน้นหนัก ที่ ป.ป.ส.จะต้องดำเนินการไปอย่างคู่ขนานทั้งในด้านของการป้องปรามและปราบปราม
ทั้งนี้ จากข้อมูลล่าสุด พบว่า พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นพื้นที่ที่ต้องจับตาเป็นอย่างมาก
เพราะการสกัดกั้นในภาคเหนือเข้มแข็ง จับกุมได้มาก ส่งผลให้กลุ่มนักค้าเปลี่ยนเส้นทางการนำเข้าทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งกลุ่มนักค้ารายใหญ่จากนอกภาคหลายกลุ่มเปลี่ยนเส้นทางมานำเข้าทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และการนำเข้าของกลุ่มนักค้าเครือข่ายของกลุ่มนักค้าตามหมายจับที่หลบหนีไปค้ายาเสพติดนอกประเทศ
ขณะเดียวกัน จากข้อมูลที่ได้มานั้นยังคงพบว่ากลุ่มนักโทษในเรือนจำคลองเปรม บางขวาง หลายกลุ่มเปลี่ยนทิศทางมานำเข้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และการปราบปรามกลุ่มผู้ค้ารายใหญ่ในประเทศเพื่อนบ้านดำเนินการได้น้อย
รองเลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวเพิ่มเติมว่า 12 จังหวัดภาคอีสานตอนบน พบว่า มีการเพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดระดับต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ค้ารายย่อย ขณะที่กลุ่มผู้ค้ารายใหญ่ รายกลาง ที่เคยมีพฤติการณ์กลับมาเคลื่อนไหวทำการค้ายาเสพติดเพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มผู้ค้ารายย่อยที่เป็นผู้เสพ ผันตัวมาเป็นผู้ค้าเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ กลุ่มผู้ค้ารายใหม่มีสัดส่วนสูง โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนที่มีอายุ 15-19 ปี ทั้งที่อยู่ในระบบการศึกษาและนอกการศึกษา ขณะเดียวกันยังคงพบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้ามาเกี่ยวข้อกับยาเสพติดจำนวนมาก ทั้งที่เป็นผู้ดำเนินการเอง และสนับสนุนช่วยเหลือ ประกอบกับราคายาบ้าในพื้นที่ต่างๆ มีราคาลดลง อีกทั้งกลุ่มผู้ใช้หลัก จะเป็นกลุ่มอาชีพรับจ้างว่างงาน เกษตรกร และกลุ่มนักเรียนนักศึกษาและมีอายุที่ใช้ยาเสพติดครั้งแรกอยู่ระหว่างอายุ 15-19 ปี
กลุ่มผู้ใช้ที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตัวยาที่แพร่ระบาด ยาบ้ายังคงเป็นตัวยาหลักที่แพร่ระบาดมากที่สุด และยาไอซ์ มีแนวโน้มที่จะระบาดเพิ่มมากขึ้นในระยะนี้ทำให้การดำเนินการของ ปปส.ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ จะต้องเพิ่มความเข้มงวดมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลพบว่าพื้นที่ จ.ขอนแก่น ประกอบด้วย อ.เมือง, ชุมแพ, พล, กระนวน,บ้านไผ่ และ อ.น้ำพอง จ.อุดรธานี ประกอบด้วย อ.เมือง, ศรีธาตุ, วังสามหมอ, นายูง, น้ำโสม และ อ.เพ็ญ จ.มหาสารคาม ได้แก่ อ.เมือง, โกสุมพิสัย, กันทรวิชัย, บรบือ, เชียงยืน, พยัคฆภูมิพิสัย และ อ.วาปีปทุม จ.นครพนม ประกอบด้วย อ.บ้านแพง, นาทม, ศรีสงคราม,โพนสวรรค์, ท่าอุเทน, ธาตุพนม, นาแก, นาหว้า และ อ.เรณูนคร
จ.สกลนคร ประกอบด้วย อ.เมือง, กุสุมาลย์, วาริชภูมิ, สว่างแดนดิน, นิคมน้ำอูน และ จ.กาฬสินธุ์ ประกอบด้วย อ.กุฉินารายณ์, คำม่วง, เมือง, หนองกุงศรี, สมเด็จ, ห้วยผึ้ง, ยางตลาด, กมลาไสย และ อ.เขาวง เป็นพื้นที่ที่ ป.ป.ส.จะต้องปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจังและเต็มที่ที่สุด
