อุตรดิตถ์ - เปิดหมู่บ้านแดงลับแล 3 ตำบล ชงตัวเลขเพิ่มอีก 21 หมู่บ้าน แต่ไร้เงาแกนนำในพื้นที่ เผยมีแต่แผงขายของ แถมก่อนเปิดงานเก็บเงินคนละ 50 บาทอ้างนำไปช่วยเหยื่อน้ำท่วม
รายงานข่าวจากจังหวัดอุตรดิตถ์ แจ้งว่า ที่ศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอทอป)เขตเทศบาลตำบลหัวดง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ น.พ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ประธานสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดง,นายอานน แสนน่าน เลขาธิการสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตย,นายดาชัย อุชุโกศลการ รองประธานสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดง และนางดารุณี กฤตบุญญาลัย - นายอรรถชัย อนันตเมฆ(โด่ง) พร้อมคณะ ได้เป็นประธานการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดง ในพื้นที่ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เมื่อวานนี้(14 ธ.ค.54) โดยมีนายจำนง ต๊ะโก้ และ จ.ส.อ.อุดร กิ่งสาร แกนนำในพื้นที่ อ.ลับแล พร้อมมวลชนร่วมทำการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดง
โดยหลังจาก นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ประธานสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงกล่าวเปิดงานหมู่บ้านแดงและรับประทานอาหารกลางวัน ต่อมานางดารุณี กฤตบุญญาลัย ได้ขึ้นปราศรัย และ ร้องเพลงปลุกใจให้ความสนุกสนานให้มวลชนฟังและทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ ให้กับคณะจากส่วนกลาง ก่อนที่จะทำพิธีมอบป้ายหมู่บ้านเสื้อแดงให้แกนนำหมู่บ้าน โดยมีหมู่บ้านเข้าร่วม ได้แก่ ต. แม่พูล ต. ฝายหลวง ต. นานกกก ต.ป่าเซ่า อ.เมือง รวมทั้งหมด จำนวน 21 หมู่บ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในงานเปิดหมู่บ้านแดงดังกล่าวมีการนำสินค้าประเภทเสื้อยืดสีแดงที่มีภาพสกรีนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี คู่กับพี่ชายคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี ผ้าพันคอ เสื้อกันหนาวป้ายพร้อมสายสีแดงสำหรับติดบัตรประจำตัวห้อยคอ หมวก และสินค้าอื่นๆที่เกี่ยวกับ นปช.และคนเสื้อแดง มาจำหน่ายให้กับผู้ร่วมงานด้วย
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า นายปัณณวัฒน์ นาคมูล ผู้ประสานงาน นปช.ส่วนกลางกับ นปช.อุตรดิตถ์ ไม่เข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย ซึ่งก่อนการเปิดหมู่บ้านคนเสื้อแดง มีการเปิดรับสมัครสมาชิก นปช.นำรายได้ค่าสมัครคนละ 50 บาท อ้างว่าจะนำเงินไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลาง
แหล่งข่าวจากแกนนำ นปช.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า เหตุที่นายปัณณวัฒน์ไม่เข้าร่วมงานดังกล่าวเนื่องจากมีเหตุผลส่วนตัวโดยเฉพาะการเปิดหมู่บ้านแดงทั่วประเทศ ไม่ใช่นโยบายของ นปช.ส่วนกลางแต่เป็นเรื่องของคนเสื้อแดงมากกว่า หากเป็นนโยบายของ นปช.การเปิดหมู่บ้านแดง จะเน้นไปที่การจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมประชาธิปไตยไม่มีเรื่องการจำหน่ายสินค้าหรือเรื่องผลประโยชน์อย่างอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย