มุกดาหาร - ด่านศุลกากรมุกดาหาร ตรวจยึดตัวบ่าง ซึ่งเป็นสัตว์ป่าอนุรักษ์ ขณะลักลอบนำเข้าที่ริมฝั่งแม่โขงจำนวน 200 ตัว ถูกยัดอัดแน่นในกระสอบปุ๋ย จนเหยียบกันตายกว่า 50 ตัว รอดตายประมาณ 135 ตัว
นายภาณุพงศ์ ภัคจิรัญโรจน์ หัวหน้างานป้องกันและปราบปรามด่านศุลกากรมุกดาหาร เปิดเผยว่า จังหวัดมุกดาหาร มีการลักลอบส่งสินค้าออกและนำเข้า โดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากรจำนวนมาก ดังนั้น ด่านศุลการกรมุกดาหาร ได้รับคำสั่งจาก นางสาวพรพิมล นายด่านศุลกากรมุกดาหาร ให้จัดชุดเฉพาะกิจด่านศุลกากร ในการปราบปรามขบวนการลักลอบขนสินค้าหนีภาษี ตามแนวริมฝั่งแม่น้ำโขง เพื่อให้เข้าสู่ระระบบการเสียภาษีที่ถูกต้อง
นายภาณุพงศ์ กล่าวอีกว่า การที่ได้นำชุดเฉพาะกิจด่านศุลกากรมุกดาหาร ออกลาดตระเวนตามริมฝั่งแม่น้ำโขง เพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดการลักลอบขนสินค้าหนีภาษี รวมถึงการลักลอบนำเข้าสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างเข็มงวด
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (9 ธ.ค.) ได้มีรถสามล้อเครื่อง (สกายแล็บ) บรรทุกสิ่งของมาเต็มคันขับขี่มาด้วยความเร็วสูง ผ่านหน้าสำนักงานด่านศุลกากรมุกดาหาร เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรมุกดาหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่หน้าสำนักงาน จึงให้สัญญาณให้หยุดและเข้าตรวจสอบ
พบเป็นกระสอบปุ๋ยจำนวน 4 กระสอบ ปากกระสอบถูกมัดอย่างแน่นหนา ตรวจสอบภายใน ปรากฏว่า เป็นตัวบ่าง หรือ พุงจง ซึ่งเป็นสัตว์ป่าอนุรักษ์ จำนวนกว่า 200 ตัว อัดแน่นอยู่ในกระสอบจนเหยียบกันตายไปกว่า 50 ตัว ส่วนที่เหลือยังมีชีวิตจำนวน 135 ตัว
จากการสอบสวนคนขับรถสามล้อ ให้การว่า ตนเป็นคนขับรถรับจ้างส่งของ โดยได้รับการว่าจ้างจากชาวลาวที่บ้านนาโป ให้นำของส่งให้กับแม่ค้าในตลาดเมืองมุกดาหาร โดยไม่ทราบว่าเป็นของผิดกฎหมาย
เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดตัวบ่างทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและได้ประสานไปสำนักงานด่านตรวจสัตว์ป่าจังหวัดมุกดาหาร มารับตัวบ่างทั้งหมด เพื่อนำไปล่อยสู่ธรรมชาติฟื้นฟูพันธุ์สัตว์ป่าต่อไป
