ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ว่าฯระยอง เอาจริง สั่งเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยจัดการกลุ่มนายทุนอิทธิพลบุกรุกป่าเขาขุนอินทร์ พร้อมตั้งชุดปฏิบัติการลาดตระเวนทางขึ้น-ลงเขาขุนอินทร์ และสืบหารายชื่อกลุ่มนายทุนอิทธิพล และผู้บงการ
ผู้สื่อข่าวได้รายงานความคืบหน้ากรณีกลุ่มนายทุนอิทธิพลมืดและกลุ่มสีกากีบางนาย บุกรุกทำลายป่าด้วยการตัดต้นไม้บนเขาขุนอินทร์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลป่ายุบใน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง โดย นายวราวุธ ปิ่นเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้รับคำสั่งจากนายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ที่สั่งการให้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จังหวัดระยอง ฝ่ายปกครอง อำเภอวังจันทร์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่อาสาและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ พร้อมอาวุธครบมือเข้าตรวจสอบการบุกรุกเขาขุนอินทร์ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
และพบนายทุน รวมทั้งผู้มีอิทธิพลบุกรุกตัดต้นไม้ใหญ่ โดยเฉพาะไม้ประดู่ ไม้มะค่า และไม้เนื้อแข็งถูกตัดโค่นเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ยังมีการปลูกสร้างที่พักด้วยแผ่นไม้จากการโค่นแผ้วถางป่า ด้านทางขึ้นเขาด้านบน และมีการสร้างป้อมยามบนยอดเขา คอยดูความเคลื่อนไหวโดยรอบเชิงเขามีการแผ้วถางป่าใช้พื้นที่ปลูกยางพาราเป็นพื้นที่บริเวณกว้าง และยังมีการข่มขู่เจ้าหน้าที่ป่าไม่ให้ขึ้นไปตรวจสอบเพราะมีอาวุธสงครามจำนวนมาก
โดยในวันนี้ (8 ธ.ค.) นายวราวุธ ปิ่นเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้เป็นประธานการประชุมคณะทำงานการแก้ไขปัญหาการบุกรุกป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติ ณ ห้องประชุมศูนย์ราชการจังหวัดระยอง โดยมีคณะทำงานฝ่ายต่างๆ ประกอบด้วย อัยการจังหวัด ป้องกันจังหวัด ที่ดินจังหวัด สหกรณ์จังหวัด ฝ่ายปกครองอำเภอวังจันทร์ นิคมสหกรณ์ชะแวะ ตำรวจ ผู้แทนองค์กรส่วนท้องถิ่นและกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าร่วมประชุม เพื่อรับทราบความคืบหน้า พร้อมวางมาตรการในการจับกุม นายทุนอิทธิพล และผู้บุกรุกที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเฉพาะนายทุนตัดไม้บนภูเขาไปขายให้กับโรงเลื่อยในพื้นที่
ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า ตามคำสั่ง นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ที่มีหนังสือแต่งตั้งคณะทำงาน โดยแบ่งออกเป็น 2 คณะ ประกอบด้วยคณะทำงานฝ่ายอำนวยการ ตนเป็นประธานคณะทำงาน และคณะทำงานฝ่ายปฏิบัติงาน มีนายเวรัชช์ ธาราสมบัติ นายอำเภอวังจันทร์ เป็นประธานคณะทำงาน ซึ่งผู้แทนจากนิคมสหกรณ์ชะแวะ ได้รายงานผลการดำเนินงานกรณีผู้บุกรุกป่าเขาขุนอินทร์จำนวนนับพันไร่
จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ที่ถูกบุกรุกอยู่ในเขตป่าส่วนกลางที่นิคมสหกรณ์ชะแวะกันไว้ เพื่อให้ราษฎรไว้ใช้เป็นแหล่งทำกินและพื้นที่ชุ่มชื้น 20 เปอร์เซ็นต์ จากทั้งหมดจำนวน 18,000 ไร่ โดยพื้นที่ดังกล่าวกรมส่งเสริมสหกรณ์ ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ผู้ใดเข้าไปใช้ประโยชน์แต่อย่างใด ทั้งนี้ เกี่ยวกับเรื่องการดำเนินคดียังติดข้อกฎหมายระหว่าง พ.ร.บ.ป่าไม้ของกรมป่าไม้ กับ พ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพของ นิคมสหกรณ์ชะแวะ ซึ่งตามอัตราโทษแตกต่างกันมาก ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ทำหนังสือไปยังสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้เขตที่ 9 ชลบุรี เพื่อหารือข้อกฎหมายที่ชัดเจนในการดำเนินคดีกับผู้บุกรุก
นายวราวุธ รองผวจ.ระยอง กล่าวว่า ที่ประชุมได้วางมาตรการทั้งเชิงรุกและเชิงรับในการแก้ไขปัญหา ประกอบด้วย 1.นิคมสหกรณ์ชะแวะ จัดทำแผนที่ผู้บุกรุกป่าบนเขาขุนอินทร์ให้เสร็จภายในวันที่ 15 มกราคม 2555 2.คณะทำงานฝ่ายปฏิบัติการจัดชุดลาดตระเวนอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง 3.จัดตั้งฐานปฏิบัติการชั่วคราวบริเวณทางขึ้นและทางลงเขา 4.ประสานงานไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อขอรับการสนับสนุนในการจัดอบรมอาสาสมัครป้องกันป่าไม้แบบบูรณาการ 5.รายงานผลทางลับกับผู้ว่าฯระยองหรือรองผู้ว่าฯที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะรายชื่อผู้ครอบครองหรือผู้บงการ และจัดกำลังสนับสนุนดำเนินการตรวจยึด รื้อถอน เมื่อครบกำหนด 30 วัน ซึ่งเป็นประกาศของนิคมสหกรณ์ชะแวะ
กรณีที่มีคำสั่งย้าย นายเวรัชช์ ธาราสมบัติ นายอำเภอวังจันทร์ ไปเป็นนายอำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด เกี่ยวกับกรณีที่ปล่อยให้มีการบุกรุกป่าเขาขุนอินทร์ หรือไม่ เพราะบ้านพักของนายอำเภออยู่ใกล้กับเขาขุนอินทร์ และไม่เคยรายงานเรื่องนี้ให้ทราบ จนมีการร้องเรียน นายธวัชชัย เทิดเผ่าไทย ผวจ.ระยอง ตอบว่า ผลงานที่ผ่านมาของนายอำเภอไม่เข้าเป้าประสงค์มากนัก ส่วนสาเหตุการถูกย้ายครั้งนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกับการปล่อยให้มีการบุกรุกเขาขุนอินทร์ แต่อย่างใด