ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานเปิดค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพสิ่งเสพติด ณ กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน กรมทหารปืนใหญ่กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง โดยมีผู้ติดยาเสพติด 50 คนเข้าร่วม
นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานเปิดค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพสิ่งเสพติด ณ กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน กรมทหารปืนใหญ่กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง โดยมีนายชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ ในฐานะผู้ดำเนินโครงการ พร้อมด้วยนายสุรเชษฐ์ แก้วคำ ปลัดฝ่ายป้องกันและปราบปรามอำเภอสัตหีบ ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรในอำเภอสัตหีบ กำนัน ผู้ใหญ่และผู้ปกครองเข้าร่วมเป็นกำลังใจ และเป็นวิทยากรให้ความรู้ ความเข้าใจถึงพิษภัยและโทษยาเสพติด ให้กับผู้ติดยาเสพติดจำนวน 50 คน ที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติ
โดย นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ กล่าวว่าตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้การเอาชนะยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมกันดำเนินการให้ประสบผลสำเร็จและได้มีคำสั่งศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติที่ 1/2554 ลงวันที่ 22 กันยายน 2554 เรื่องแผนยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด พ.ศ.2554 กำหนดยุทธศาสตร์แผนงานแนวทางการดำเนินงานเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และได้กำหนดให้จัดการฝึกอบรมค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพ อย่างน้อยอำเภอละ 1 รุ่นนั้น
ศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอำเภอสัตหีบ (ศพส.อ.สัตหีบ) เล็งเห็นแนวทางดังกล่าว จึงจัดทำโครงการค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เสพ/ผู้ติดยา ได้รับการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพและเป็นคนดีกลับคืนสู่สังคม ให้ผู้ผ่านโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน โดยการฝึกอบรมมีระยะเวลา 9 วัน 8 คืน
ขณะที่ นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่าสืบเนื่องจากในปัจจุบันปัญหายาเสพติด และปัญหาอาชญากรรม เป็นปัญหาที่มีความรุนแรงส่งผลกระทบต่อประเทศชาติในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะยาเสพติดประเภทยาบ้า ได้หวนกลับมาแพร่ระบาดในกลุ่มเยาวชนทั้งในและนอกสถานศึกษา ทำให้หลายฝ่ายเกิดความห่วงใย จึงได้ร่วมมือกันในการดำเนินการเกี่ยวกับมาตรการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การดำเนินการที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีนโยบายและความมุ่งมั่นที่จะขจัดปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง และเด็ดขาด
ซึ่งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ติดยาเสพติด ถือเป็นผู้ป่วยต้องได้รับการบำบัดรักษา ให้พวกเขาได้กลับมามีชีวิตอย่างปกติสุข ร่วมกับคนในสังคม และเป็นหูเป็นตา เป็นกระบอกเสียง และเป็นสมอง ร่วมกันแก้ไขปัญหาเสพติดในอนาคตต่อไป