ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ็ตสกีชายหาดเมืองพัทยาฉาวอีก นักท่องเที่ยวยูเครนร้องถูกเรียกเก็บเงินค่าเจ็ตสกีเฉี่ยวชนกว่า 1 แสนบาทซึ่งแพงสูงกว่าความเป็นจริง
เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว 4 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ได้รุดไปตรวจสอบที่บริเวณด้านหน้าโรงแรมเวลคัม ถนนพัทยาสาย 2 ย่านพัทยาใต้ เขตเมืองพัทยา หลังได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวชาวยูเครนว่า ถูกผู้ประกอบการปล่อยเรือเจ็ตสกีให้เช่าเรียกเก็บเงินค่าเจ็ตสกีเฉี่ยวชนสูงกว่าความเป็นจริง
เมื่อไปถึงพบ มิสอีเลนา อายุ 23 ปี มิสอานาสตาเซีย อายุ 25 ปี และมิสเตอร์ทาตา อายุ 29 ปี ที่กำลังยืนพูดคุยอยู่กับนายสรายุทธ เจ๊ะหมัด อายุ 34 ปี และนายณัฐภูมิ ภูมินอก อายุ 25 ปี 2 ผู้ประกอบการปล่อยเรือเจ็ตสกีให้เช่าบริเวณชายหาดด้านหน้าห้างสรรพสินค้ารอยัลการ์เด้นพลาซ่า จึงได้เข้าไปทำการตรวจสอบ
เบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวยูเครนทั้งหมดได้เข้าไปเช่าเรือเจ็ตสกีจำนวน 3 ลำซึ่งเป็นของนายสรายุทธ เพื่อขับขี่ชมทัศนียภาพบริเวณชายหาดพัทยาใต้ ในเวลาครึ่งชั่วโมงราคาลำละ 700 บาท แต่เรือเจ็ตสกีทั้ง 3 ลำได้เกิดเฉี่ยวชนกันเพียงเล็กน้อย นายสรายุทธจึงเรียกเก็บเงินค่าเสียหายจากนักท่องเที่ยวประมาณ 2,400 ดอลลาร์ รวมเป็นเงินไทยประมาณ 78,000 บาท ก่อนพาตัวนักท่องเที่ยวทั้งสามกลับมาเอาเงินที่ห้องพัก แต่ด้วยความกลัวนักท่องเที่ยวทั้งสามได้โทรศัพท์ไปปรึกษาเพื่อนสัญชาติเดียวกัน กระทั่งเพื่อนได้แจ้งขอความช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบ
ขณะที่นายสรายุทธ ผู้ประกอบการเรือเจ็ตสกีคู่กรณี ให้การว่า ไม่ได้ข่มขู่ทำร้าย แต่ได้ตกลงกับนักท่องเที่ยวจนเป็นที่พอใจ โดยนักท่องเที่ยวจะขอกลับมาอาเงินที่ห้องพักจึงได้ตามมาหาที่โรงแรมเพื่อเอาเงินเท่านั้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้สอบถามถึงเรือเจ็ตสกีที่ถูกเฉี่ยวชนทั้ง 3 ลำเพื่อขอไปทำการตรวจสอบความเสียหาย แต่นายสรายุทธกลับบอกว่าได้เคลื่อนย้ายไปรอซ่อมแซมไว้ที่อู่เรือแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยต่อรองค่าเสียหายเพื่อไม่ให้ราคาแพงกว่าความเป็นจริงจนเหลือเพียง ลำละ 1 หมื่นบาท จนเป็นที่พอใจกับทั้งสองฝ่าย ก่อนพาตัวไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมามีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติอยู่บ่อยครั้ง โดยผู้ประกอบการมักเลือกเวลาก่อนค่ำ ทำให้ยากแก่การตรวจสอบร่องรอยถูกเฉี่ยวชน จนเป็นข่าวดังในด้านความเสียหายให้แก่เมืองพัทยามาก่อนหน้านี้แล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว 4 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ได้รุดไปตรวจสอบที่บริเวณด้านหน้าโรงแรมเวลคัม ถนนพัทยาสาย 2 ย่านพัทยาใต้ เขตเมืองพัทยา หลังได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวชาวยูเครนว่า ถูกผู้ประกอบการปล่อยเรือเจ็ตสกีให้เช่าเรียกเก็บเงินค่าเจ็ตสกีเฉี่ยวชนสูงกว่าความเป็นจริง
เมื่อไปถึงพบ มิสอีเลนา อายุ 23 ปี มิสอานาสตาเซีย อายุ 25 ปี และมิสเตอร์ทาตา อายุ 29 ปี ที่กำลังยืนพูดคุยอยู่กับนายสรายุทธ เจ๊ะหมัด อายุ 34 ปี และนายณัฐภูมิ ภูมินอก อายุ 25 ปี 2 ผู้ประกอบการปล่อยเรือเจ็ตสกีให้เช่าบริเวณชายหาดด้านหน้าห้างสรรพสินค้ารอยัลการ์เด้นพลาซ่า จึงได้เข้าไปทำการตรวจสอบ
เบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวยูเครนทั้งหมดได้เข้าไปเช่าเรือเจ็ตสกีจำนวน 3 ลำซึ่งเป็นของนายสรายุทธ เพื่อขับขี่ชมทัศนียภาพบริเวณชายหาดพัทยาใต้ ในเวลาครึ่งชั่วโมงราคาลำละ 700 บาท แต่เรือเจ็ตสกีทั้ง 3 ลำได้เกิดเฉี่ยวชนกันเพียงเล็กน้อย นายสรายุทธจึงเรียกเก็บเงินค่าเสียหายจากนักท่องเที่ยวประมาณ 2,400 ดอลลาร์ รวมเป็นเงินไทยประมาณ 78,000 บาท ก่อนพาตัวนักท่องเที่ยวทั้งสามกลับมาเอาเงินที่ห้องพัก แต่ด้วยความกลัวนักท่องเที่ยวทั้งสามได้โทรศัพท์ไปปรึกษาเพื่อนสัญชาติเดียวกัน กระทั่งเพื่อนได้แจ้งขอความช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบ
ขณะที่นายสรายุทธ ผู้ประกอบการเรือเจ็ตสกีคู่กรณี ให้การว่า ไม่ได้ข่มขู่ทำร้าย แต่ได้ตกลงกับนักท่องเที่ยวจนเป็นที่พอใจ โดยนักท่องเที่ยวจะขอกลับมาอาเงินที่ห้องพักจึงได้ตามมาหาที่โรงแรมเพื่อเอาเงินเท่านั้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้สอบถามถึงเรือเจ็ตสกีที่ถูกเฉี่ยวชนทั้ง 3 ลำเพื่อขอไปทำการตรวจสอบความเสียหาย แต่นายสรายุทธกลับบอกว่าได้เคลื่อนย้ายไปรอซ่อมแซมไว้ที่อู่เรือแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยต่อรองค่าเสียหายเพื่อไม่ให้ราคาแพงกว่าความเป็นจริงจนเหลือเพียง ลำละ 1 หมื่นบาท จนเป็นที่พอใจกับทั้งสองฝ่าย ก่อนพาตัวไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมามีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติอยู่บ่อยครั้ง โดยผู้ประกอบการมักเลือกเวลาก่อนค่ำ ทำให้ยากแก่การตรวจสอบร่องรอยถูกเฉี่ยวชน จนเป็นข่าวดังในด้านความเสียหายให้แก่เมืองพัทยามาก่อนหน้านี้แล้ว