อากาศอุบลฯหนาวเย็น สสจ.เตือนประชาชนรักษาสุขภาพ

อุบลราชธานี - อากาศในอุบลฯเริ่มหนาวเย็นลงอีกจนถึงสุดสัปดาห์ สาธารณสุขอุบลฯ ห่วงประชาชนเจ็บป่วย พร้อมเฝ้าระวัง 6 โรคสำคัญในหน้าหนาว ชี้ หากเจ็บป่วยควรพักผ่อนให้เพียงพอ หากอาการไม่ดีขึ้นต้องรีบพบแพทย์

วันนี้ (6 ธ.ค.) ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.อุบลราชธานี ระบุสภาพอากาศหนาวเย็นในตอนเช้าวันนี้ (6 ธ.ค.) โดยอุณหภูมิต่ำสุด 18 องศาเซลเซียส และตั้งแต่วันศุกร์ที่ 9 ธ.ค.ไปจนถึงสิ้นสัปดาห์นี้ จะมีอากาศหนาวอุณหภูมิเฉลี่ย 14-15 องศาเซลเซียส ส่วนยอดดอยอุณหภูมิต่ำสุด 8 องศาเซลเซียส จึงขอเตือนประชาชนให้สวมเสื้อผ้ากันหนาวสร้างความอบอุ่นให้ร่างกาย โดยเฉพาะในกลุ่มคนชรา เด็กเล็ก และผู้ป่วยเรื้อรัง

นายแพทย์ สุรพร ลอยหา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวเตือนเด็กและผู้สูงอายุว่า ขณะนี้ได้ข้าสู่ฤดูหนาว สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม หัดเยอรมัน อีกสุกอีใส และอุจจาระร่วงในเด็ก สาเหตุการเกิดโรค เนื่องจากเชื้อไวรัสชอบอากาศหนาวเย็น

สำหรับรายงานสถานการณ์โรคของจังหวัดอุบลราชธานี โดยงานระบาดวิทยากลุ่มงานควบคุมโรค ซึ่งติดตามสถานการณ์โรคที่เกิดในฤดูหนาว ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2554 พบว่า มีผู้ป่วยจากโรคฤดูหนาว 6 โรค แยกเป็นโรคอุจจาระร่วง จำนวน 37,044 ราย รองลงมาคือ ปอดบวม 6,793 ราย โรคสุกใส 1,943 ราย ไข้หวัดใหญ่ 1,281 ราย โรคหัด 59 ราย

นายแพทย์สาธารณสุข จ.อุบลราชธานี กล่าวต่อว่า หากพบผู้ป่วยในกลุ่มโรคทั้ง 6 ชนิด ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือคลุกคลีกับผู้ป่วย หลีกเลี่ยงเข้าไปอยู่ในสถานที่มีคนแออัด ล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้แอลกอฮอล์เจลทำความสะอาดมือ หมั่นดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ รักษาร่างกายให้อบอุ่น และไม่ใส่เสื้อผ้าที่เปียกชื้น

เมื่อเริ่มมีอาการป่วยควรนอนพักมากๆ และดื่มน้ำบ่อยๆ หากตัวร้อนมากให้กินยาลดไข้ ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตัว ถ้าอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน ควรรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน โดยเฉพาะคนในกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคเรื้อรังประจำตัว เช่น โรคปอด หอบหืด โรคหัวใจ ไต เป็นต้น

กรณีหญิงมีครรภ์ หรือกลุ่มโรคอ้วน กลุ่มผู้มีภูมิต้านทานต่ำ กลุ่มผู้สูงอายุ หรือกลุ่มเด็กเล็ก หากมีอาการหายใจเร็ว หอบ หายใจแรงจนชายโครงบุ๋ม หรือหายใจมีเสียงดังอาจเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะสามารถทำให้เสียชีวิตได้