ตาก -เปิดด่านฯเมียวดี เป็นวันที่สอง ทำชายแดนแม่สอดคึกคัก นายด่านฯเชื่อมูลค่าการค้าเพิ่มแน่ไม่น้อยกว่า 15-20 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่กลุ่มรถสองแถวไทยเตรียมประท้วงอีก อ้างรถพม่าวิ่งทับเส้นทาง
รายงานข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก แจ้งว่า วันนี้ (6 ธ.ค.) ที่บริเวณด่านถาวรเชิงสะพานมิตรภาพไทย-พม่า อ.แม่สอด ตรงข้ามเมืองเมียวดี ประเทศพม่า คึกคักเป็นพิเศษตั้งแต่ช่วงเช้า เนื่องจากทางการพม่าได้เปิดด่านเป็นวันที่สองให้ประชาชนทั้งสองฝั่งรวมทั้งให้มีการส่งสินค้าข้ามฝั่งได้ ทำให้การจราจรบริเวณเชิงสะพานติดขัด เพราะมีรถผ่านเข้าออกด่านจำนวนมาก รวมทั้งประชาชนชาวพม่า ก็พากันเดินทางข้ามสะพานมาขึ้นรถสองแถวเพื่อเข้าไปจับจ่ายซื้อสินค้าในตัวเมืองแม่สอดจำนวนมาก
นอกจากนี้ ชาวพม่าที่กลับไปพิสูจน์สัญชาติในพม่าจำนวนมากต่างมารอตรวจลงตราพาสปอร์ตเพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ
ส่วนรถขนส่งสินค้าวันนี้ยังเงียบ เพราะที่ผ่านมาเป็นช่วงวันหยุดยาวไม่มีสินค้าเข้า คงต้องรอช่วงพรุ่งนี้ (7 ธ.ค.) คาดว่า จะมีเข้ามาจำนวนมาก ขณะที่ช่วงเปิดด่านวันแรก (5 ธ.ค.) ปรากฏว่า มีชาวพม่าผ่านเข้าออกสะพานมิตรภาพฯกว่า 1,500 คน
นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ นายด่านศุลกากรแม่สอด กล่าวว่า การเปิดด่านเมียวดี ของพม่า ในช่วงนี้จะส่งผลทำให้มูลค่าการค้าชายแดนเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคมนี้เพราะอยู่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ จะทำให้ชาวพม่าเดินทางมาซื้อสินค้าเพิ่มมากกว่าปกติ หรือมากกว่า 15-20 เปอร์เซ็นต์จากเดิม และทางด่านศุลกากรแม่สอดจะประเมินมูลค่าการค้าชายแดนภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ก็จะทำให้รู้แน่ชัดว่าจะเพิ่มขึ้นเท่าไร
อย่างไรก็ตาม การเปิดด่านฯเมียวดี ครั้งนี้เริ่มส่อเค้ามีเรื่องวุ่นขึ้นมาเช่นกัน เนื่องจากมีรถตู้โดยสารพม่าวิ่งทับเส้นทางเข้ามาถึงในเมืองแม่สอดได้ แต่รถสองแถวไทยข้ามไปฝั่งพม่าไม่ได้ จึงเตรียมประท้วง
ผู้ประกอบการรถสองแถว บอกว่า กรณีรถยนต์โดยสารประเทศพม่า เข้ามารับส่งผู้โดยสารในอำเภอแม่สอดตั้งแต่ปี 2547 จนถึงขณะนี้ มีจำนวนมากกว่า 100 คัน ทำให้ผู้ประกอบการรถสองแถวไทยเดือดร้อน ที่ผ่านมา ยังไม่มีหน่วยงานใดจะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างจริงจัง แม้มีการนัดประชุมแก้ไขปัญหาดังกล่าวหลายครั้ง แต่ตัวแทนรถโดยสารพม่าไม่เคยให้ความร่วมมือแก้ไข จึงอาจจะต้องชุมนุมประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมต่อเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเข้ามาดูแลทุกข์ร้อน ข้อเรียกร้อง คือ “ไม่ต้องการให้รถยนต์โดยสารประเทศพม่า เข้ามารับ และส่งผู้โดยสารในเขตอำเภอแม่สอดโดยเด็ดขาด”