กาญจนบุรี - คณะกรรมการผู้ใช้พลังงานประจำเขต 9 จี้ กกพ.สอบ กฟผ.กรณีบริหารน้ำเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ผิดพลาด ชี้ ให้เยียวยาเหมือนกรณีเขื่อนศรีนครินทร์ ที่ปล่อยน้ำช่วยก๊าซพม่า จนเกิดน้ำเอ่อไหลบ่าเข้าท่วมทรัพย์สินของประชาชนในเขตริมตลิ่งแม่น้ำแควใหญ่เมื่อปี 53
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (21 พ.ย.) นายผสันต์ ธัมปราญช์ ประธานคณะกรรมการผู้ใช้พลังงานประจำเขต 9 (คพข.9) กาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในครั้งนี้ ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการบริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาดของเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ที่อยู่ในกำกับดูแลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ในฐานะเป็นผู้ประกอบกิจการพลังงาน ซึ่งหากสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วมในครั้งนี้เกิดจากการบริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาดของผู้ประกอบกิจการพลังงานจริง ในฐานะที่คณะกรรมการกำกับพลังงานที่ดูและเกี่ยวกับการบริหารกิจการพลังงานของประเทศและในส่วนของคณะกรรมการผู้ใช้พลังงานเขต 9 (กาญจนบุรี) ที่ดูแลเกี่ยวกับการปกป้องสิทธิของผู้ใช้พลังงานที่ได้รับผลกระทบจากผู้ประกอบกิจการพลังงาน
จึงเล็งเห็นว่า หากผู้ประกอบกิจการพลังงานกระทำการใดๆ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิทธิของผู้ใช้พลังงานเกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน คพข.9 จึงมีมติให้ทำหนังสือบันทึกการประชุมนำส่งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อพิจารณาช่วยเหลือผู้ใช้พลังงานต่อไป ทั้งนี้ หมายรวมถึงผู้ใช้พลังงานที่ได้รับผลกระทบจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวง ที่ได้รับความเสียหายจากไฟฟ้ารั่วไฟฟ้าดูดจนเสียชีวิตก็น่าจะอยู่ในข่ายของการได้รับการเยียวยาจากผู้ประกอบกิจการพลังงานด้วยเช่นกัน
ประธาน คพข.9 เปิดเผยต่อว่า ดังนั้น ทาง สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานประจำเขต 9 (สกพ.เขต 9) ได้มีการประชุมหารือ เรื่อง การเยียวยาผู้ใช้พลังงานที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยในที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับกรณีการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ที่อยู่ในการกำกับดูแลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ สกพ.เขต 9 จำนวน 3 จังหวัด ประกอบด้วย จ.สุพรรณบุรี นครปฐม และ จ.สมุทรสาคร
โดยที่ประชุมมีมติให้นำเรื่องการเยียวยาผู้ใช้พลังงานที่ประสบภัยเข้าหารือในที่ประชุมประธาน คพข.ทั้ง 13 เขต เพื่อนำข้อเรียกร้องยื่นต่อ กกพ.เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและหารือกับ กฟผ.เพื่อหาทางเยียวยา โดยในส่วนของผู้ประสบภัย ทั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับการเยียวยาของรัฐบาล เหมือนกรณีที่ กฟผ.ทำละเมิดต่อผู้ใช้พลังงานจนได้รับความเสียหาย
เช่น กรณีการปล่อยน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้าของเขื่อนศรีนครินทร์อย่างฉับพลันเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าสู่ระบบไฟฟ้าทดแทนปัญหาการส่งก๊าซจากพม่าที่บกพร่อง จนเกิดน้ำเอ่อไหลบ่าเข้าท่วมทรัพย์สินของประชาชนในเขตริมตลิ่งแม่น้ำแควใหญ่ที่ กฟผ.ได้รับผิดชอบจ่ายค่าชดเชยความเสียหายแก่ผู้ได้รับผลกระทบในเหตุการณ์เมื่อปี 2553 ที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (21 พ.ย.) นายผสันต์ ธัมปราญช์ ประธานคณะกรรมการผู้ใช้พลังงานประจำเขต 9 (คพข.9) กาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในครั้งนี้ ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการบริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาดของเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ที่อยู่ในกำกับดูแลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ในฐานะเป็นผู้ประกอบกิจการพลังงาน ซึ่งหากสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วมในครั้งนี้เกิดจากการบริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาดของผู้ประกอบกิจการพลังงานจริง ในฐานะที่คณะกรรมการกำกับพลังงานที่ดูและเกี่ยวกับการบริหารกิจการพลังงานของประเทศและในส่วนของคณะกรรมการผู้ใช้พลังงานเขต 9 (กาญจนบุรี) ที่ดูแลเกี่ยวกับการปกป้องสิทธิของผู้ใช้พลังงานที่ได้รับผลกระทบจากผู้ประกอบกิจการพลังงาน
จึงเล็งเห็นว่า หากผู้ประกอบกิจการพลังงานกระทำการใดๆ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิทธิของผู้ใช้พลังงานเกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน คพข.9 จึงมีมติให้ทำหนังสือบันทึกการประชุมนำส่งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อพิจารณาช่วยเหลือผู้ใช้พลังงานต่อไป ทั้งนี้ หมายรวมถึงผู้ใช้พลังงานที่ได้รับผลกระทบจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวง ที่ได้รับความเสียหายจากไฟฟ้ารั่วไฟฟ้าดูดจนเสียชีวิตก็น่าจะอยู่ในข่ายของการได้รับการเยียวยาจากผู้ประกอบกิจการพลังงานด้วยเช่นกัน
ประธาน คพข.9 เปิดเผยต่อว่า ดังนั้น ทาง สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานประจำเขต 9 (สกพ.เขต 9) ได้มีการประชุมหารือ เรื่อง การเยียวยาผู้ใช้พลังงานที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยในที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับกรณีการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ที่อยู่ในการกำกับดูแลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ สกพ.เขต 9 จำนวน 3 จังหวัด ประกอบด้วย จ.สุพรรณบุรี นครปฐม และ จ.สมุทรสาคร
โดยที่ประชุมมีมติให้นำเรื่องการเยียวยาผู้ใช้พลังงานที่ประสบภัยเข้าหารือในที่ประชุมประธาน คพข.ทั้ง 13 เขต เพื่อนำข้อเรียกร้องยื่นต่อ กกพ.เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและหารือกับ กฟผ.เพื่อหาทางเยียวยา โดยในส่วนของผู้ประสบภัย ทั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับการเยียวยาของรัฐบาล เหมือนกรณีที่ กฟผ.ทำละเมิดต่อผู้ใช้พลังงานจนได้รับความเสียหาย
เช่น กรณีการปล่อยน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้าของเขื่อนศรีนครินทร์อย่างฉับพลันเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าสู่ระบบไฟฟ้าทดแทนปัญหาการส่งก๊าซจากพม่าที่บกพร่อง จนเกิดน้ำเอ่อไหลบ่าเข้าท่วมทรัพย์สินของประชาชนในเขตริมตลิ่งแม่น้ำแควใหญ่ที่ กฟผ.ได้รับผิดชอบจ่ายค่าชดเชยความเสียหายแก่ผู้ได้รับผลกระทบในเหตุการณ์เมื่อปี 2553 ที่ผ่านมา