ศูนย์ข่าวขอนแก่น-ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น รวบ 13 ผู้ต้องหาวัยโจ๋รุมกระหน่ำตีและขับรถยนต์ทับ นศ.มหาวิทยาลัยชื่อดังดับอนาถ สารภาพสิ้นทำเพราะเมาและคึกคะนอง
พ.ต.อ.คัชชา ธาตุศาสตร์ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.คณิต ดวงหัสดี ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนายทรงเกียรติ คำประดิษฐ์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/1 ม.1 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น พ้อมพวก ซึ่งทั้งหมดเป็นเด็กและเยาวชนอายุระหว่าง 15-21 ปี รวม 12 คน ทั้งหมดเป็นชาว จ.ขอนแก่นและมหาสารคาม พร้อมของกลางรถยนต์กระบะ โตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ผฉ-5043 ขอนแก่น ค้อนตีตะปู 2 อัน
ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมได้ ขณะหลบซ่อนตัวตามสถานที่ต่างๆทั่วทั้งจังหวัดขอนแก่น หลังลงมือก่อเหตุร่วมกันลงมือฆ่านายสุรเชษฐ เพ็งวงษ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121 ม.7 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังของ จ.ขอนแก่น ขณะขับรถจักรยายนต์กลับบ้านพัก เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.คณิต ดวงหัสดี ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่าผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าร่วมกันขับขี่รถยนต์ และร่วมกันใช้อาวุธทำร้ายร่างกายนายสุรเชษฐ จนเสียชีวิตจริง เหตุเกิดบริเวณกำแพงวัดศรีฐาน ถ.ศรีจันทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ทั้งนี้ขณะก่อเหตุเป็นช่วงที่ผู้ตายพร้อมเพื่อนกำลังขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านพัก ในขณะที่กลุ่มวัยรุ่นทั้ง 13 คน ได้ขับรถยนต์กระบะตามมาและด้วยความคึกคะนองและความมึนเมา จึงพุ่งเข้าชนรถจักรยานยนต์ของผู้ตายและเพื่อนล้มลง
ก่อนที่วัยรุ่นทั้งหมดซึ่งอยู่ในอาการเมาสุราและคึกคะนอง ได้ใช้ค้อนตีตะปูและท่อนไม้ กระหน่ำตีนายสุรเชษฐ จนสลบคาที่ พร้อมทั้งขับรถยนต์ทับร่างผู้ตายจนแน่ใจว่าเสียชีวิตจึงพากันหลบหนี
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงกระจายกำลังเพื่อสืบสวนสอบสวน ติดตามผู้ต้องหาที่ก่อเหตุดังกล่าว จนกระทั่งสืบทราบว่า รถยนต์ที่ใช้ในการลงมือก่อเหตุยังคงใช้งานอยู่ภายในเขต อ.เมืองขอนแก่น จึงเฝ้าติดตามและจับกุม 1 ในผู้ต้องหาได้ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ภายในห้องพักไม่มีเลขที่ เขตเทศบาลนครขอนแก่น
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ลงมือทำร้ายร่างกายนายสุรเชษฐพร้อมพวกจนเสียชีวิต พร้อมทั้งซัดทอดเพื่อนร่วมขบวนการและลงมือก่อเหตุดังกล่าวทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแกน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป