อุตรดิตถ์ - ชาวบ้านวอนผู้ว่าฯประกาศให้พื้นที่ “ต.น้ำไผ่” ที่เคยเจอน้ำป่า-โคลนถล่ม เป็นพื้นที่ประสบภัยหนาว หลังอุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส ติดต่อกัน 2 วันแล้ว
นายพิชิตพล คำภาปล้อง กำนันตำบลน้ำไผ่ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา (18 พ.ย.) ได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิที่บ้านเพีย หมู่ที่ 6 ต.น้ำไผ่ พบว่า อุณหภูมิลดลงเหลือ 15 องศาเซลเซียส เช่นเดียวกับเมื่อวาน (17 พ.ย.) ตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงมหาดไทย จะต้องประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยหนาว เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัด หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) น้ำไผ่เองจัดซื้อเครื่องนุ่งห่มกันหนาว จึงอยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศให้พื้นที่ ต.น้ำไผ่ เป็นพื้นที่ประสบภัยหนาว
เขาบอกว่า ต.น้ำไผ่ มี 8 หมู่บ้าน 1,230 ครัวเรือน ประชากรมี 3,800 คนเศษ ต่างประสบปัญหา และเดือดร้อนภัยหนาวทั้งตำบล ทุกปีอุณหภูมิต่ำสุด 5 องศาเซลเซียส เช่นเดียวกันปีนี้อุณหภูมิก็คงไม่แตกต่างจากปีทีผ่านมา แม้จังหวัดและอำเภอน้ำปาด จะนำเครื่องนุ่งห่มกันหนาวเข้ามาแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยหนาวบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอ
“โดยเฉพาะประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่า-โคลนถล่ม ต้องอาศัยอยู่เต็นท์ชั่วคราวของ ปภ.ทั้ง 3 ศูนย์ผู้อพยพ ทุกคนแทบไม่มีอะไรเหลือ แม้กระทั่งเสื้อผ้ามีเพียงติดตัวมาเท่านั้น” นายพิชิตพล กล่าว
ด้าน นายโยธินศร์ สมุทรคีรีจ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า จังหวัดได้เข้าไปแจกผ้าห่มและเครื่องนุ่งห่มกันหนาว ที่ ต.น้ำไผ่ แล้วเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 54 ที่ผ่านมา โดยใช้เงินที่ได้รับบริจาคจากเอกชนที่กรุงเทพฯ ส่วนที่ยังไม่พอ ก็กำลังจัดหางบประมาณมาดำเนินซื้อและแจกจ่ายอีกในภายหลัง ส่วนการประกาศเขตภัยหนาวนั้น ตามระเบียบต้องรอให้อุณหภูมิต่ำถึง 15 องศาเซลเซียสติดต่อกัน 3 วันถึงจะประกาศได้
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า จังหวัดไม่ทอดทิ้ง ชาวบ้านใน ต.น้ำไผ่ โดยจะพยายามดูแลให้ดีที่สุด เพราะต้องยอมรับว่าประชาชนในพื้นที่นี้ กำลังลำบากมากกว่าพื้นที่อื่น