ศรีสะเกษ - เร่งค้นหาตัวเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ชุด ฉก.ปราบมอดไม้พะยูงเทือกเขาพนมดงรัก ด้าน จ.ศรีสะเกษ พลัดหลงเข้าไปในป่าชายแดนไทย-กัมพูชา นาน 5 วัน ยังไม่รู้ชะตากรรม
วันนี้ (13 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไพบูลย์ รัตนะเจริญธรรม ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้า กรณีที่ นายวิทย์ ธูปหอมละออ เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าวัดไผ่ล้อม สังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) ซึ่งเป็นชุดเฉพาะกิจ ที่เข้ามาปฏิบัติการตามแผนเฉพาะกิจสนธิกำลังปราบปรามการลักลอบทำไม้พะยูงในเขตพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก จ.ศรีสะเกษ ในระหว่างวันที่ 28 ต.ค.-16 พ.ย.ตามคำสั่งของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ชุดปฏิบัติการตามแผนเฉพาะกิจ ชุดที่ 1 ซึ่งมี นายประทีป เล็กรุ่งเรืองกิจ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ เป็นหัวหน้าชุดได้ออกลาดตระเวนตรวจสอบการลักลอบทำไม้พะยูง ร่วมกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก โดยมี นายปรเมษฐ์ ศรีนามะ พนักงานพิทักษ์ป่า เป็นหัวหน้าชุดปฎิบัติการลาดตระเวน ซึ่งได้ออกลาดตระเวนบริเวณทิศตะวันออกเฉียงใต้ หน่วยพิทักษ์ป่าวังใหญ่ บริเวณห้วยตะไคร้ ท้องที่ ต.ละลาย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พิกัด E 0450866 N 1592311 ได้ยินเหมือนเสียงเลื่อยโซ่ยนต์จึงได้พากันซุ่มรอเข้าทำการจับกุม แต่เนื่องจากเป็นเวลาใกล้ค่ำแล้วจึงได้พักค้างแรมในพื้นที่ดังกล่าว
จนกระทั่งวันรุ่งขึ้น (9 พ.ย. ) นายปรเมษฐ์ หัวหน้าชุดฯ จึงได้วางแผน เพื่อเข้าทำการจับกุมขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูง โดยได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกมีกำลังจำนวน 13 นาย ทำหน้าที่ล้อมจับ ส่วนที่ 2 มีกำลังจำนวน 3 นาย ทำหน้าที่เฝ้าระวังหลัง และดูแลสำภาระ ในการเข้าจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดที่ 1 ได้ยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด ก่อนเข้าทำการจับกุมเมื่อเสียงปืนดังขึ้น ทำให้ นายวิทย์ ธูปหอมละออ ซึ่งอยู่ชุดที่ 2 เกิดขวัญผวา ได้วิ่งพลัดหลงเข้าไปในป่าชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมอาวุธประจำกาย ปลย.11 HK 33
จากการเข้าจับกุมขบวนการตัดไม้พะยูงในวันนั้น ได้ตัวผู้ต้องหาเป็นชาวกัมพูชาจำนวน 2 คน พร้อมตรวจยึดของกลางได้ไม้พะยูงแปรรูป จำนวน 9 เหลี่ยม ปริมาตร 1.15 ลบ.ม.และเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 1 เครื่อง นำส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.โดนอาว ส่วนไม้ของกลางจำเป็นต้องทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากไม่มีเส้นทางชักลากกลับขึ้นมา
หลังจากเหตุการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว จึงตรวจเช็คกำลังพล ปรากฏว่า ไม่พบตัว นายวิทย์ ดังนั้น จึงได้ประสานงานกับหน่วยทหาร ตชด. ตำรวจภูธร และผู้นำชุมชนในพื้นที่เพื่อออกติดตามค้นหา จากการค้นหาทั้งคืนยังไม่พบเห็น นายวิทย์ ที่พลัดหลงเข้าไปในป่าชายแดนไทย-กัมพูชา จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าพบตัว นายวิทย์ แต่อย่างใด
วันนี้ (13 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไพบูลย์ รัตนะเจริญธรรม ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้า กรณีที่ นายวิทย์ ธูปหอมละออ เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าวัดไผ่ล้อม สังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) ซึ่งเป็นชุดเฉพาะกิจ ที่เข้ามาปฏิบัติการตามแผนเฉพาะกิจสนธิกำลังปราบปรามการลักลอบทำไม้พะยูงในเขตพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก จ.ศรีสะเกษ ในระหว่างวันที่ 28 ต.ค.-16 พ.ย.ตามคำสั่งของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ชุดปฏิบัติการตามแผนเฉพาะกิจ ชุดที่ 1 ซึ่งมี นายประทีป เล็กรุ่งเรืองกิจ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ เป็นหัวหน้าชุดได้ออกลาดตระเวนตรวจสอบการลักลอบทำไม้พะยูง ร่วมกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก โดยมี นายปรเมษฐ์ ศรีนามะ พนักงานพิทักษ์ป่า เป็นหัวหน้าชุดปฎิบัติการลาดตระเวน ซึ่งได้ออกลาดตระเวนบริเวณทิศตะวันออกเฉียงใต้ หน่วยพิทักษ์ป่าวังใหญ่ บริเวณห้วยตะไคร้ ท้องที่ ต.ละลาย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พิกัด E 0450866 N 1592311 ได้ยินเหมือนเสียงเลื่อยโซ่ยนต์จึงได้พากันซุ่มรอเข้าทำการจับกุม แต่เนื่องจากเป็นเวลาใกล้ค่ำแล้วจึงได้พักค้างแรมในพื้นที่ดังกล่าว
จนกระทั่งวันรุ่งขึ้น (9 พ.ย. ) นายปรเมษฐ์ หัวหน้าชุดฯ จึงได้วางแผน เพื่อเข้าทำการจับกุมขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูง โดยได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกมีกำลังจำนวน 13 นาย ทำหน้าที่ล้อมจับ ส่วนที่ 2 มีกำลังจำนวน 3 นาย ทำหน้าที่เฝ้าระวังหลัง และดูแลสำภาระ ในการเข้าจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดที่ 1 ได้ยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด ก่อนเข้าทำการจับกุมเมื่อเสียงปืนดังขึ้น ทำให้ นายวิทย์ ธูปหอมละออ ซึ่งอยู่ชุดที่ 2 เกิดขวัญผวา ได้วิ่งพลัดหลงเข้าไปในป่าชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมอาวุธประจำกาย ปลย.11 HK 33
จากการเข้าจับกุมขบวนการตัดไม้พะยูงในวันนั้น ได้ตัวผู้ต้องหาเป็นชาวกัมพูชาจำนวน 2 คน พร้อมตรวจยึดของกลางได้ไม้พะยูงแปรรูป จำนวน 9 เหลี่ยม ปริมาตร 1.15 ลบ.ม.และเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 1 เครื่อง นำส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.โดนอาว ส่วนไม้ของกลางจำเป็นต้องทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากไม่มีเส้นทางชักลากกลับขึ้นมา
หลังจากเหตุการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว จึงตรวจเช็คกำลังพล ปรากฏว่า ไม่พบตัว นายวิทย์ ดังนั้น จึงได้ประสานงานกับหน่วยทหาร ตชด. ตำรวจภูธร และผู้นำชุมชนในพื้นที่เพื่อออกติดตามค้นหา จากการค้นหาทั้งคืนยังไม่พบเห็น นายวิทย์ ที่พลัดหลงเข้าไปในป่าชายแดนไทย-กัมพูชา จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าพบตัว นายวิทย์ แต่อย่างใด