น่าน-ผู้ว่าฯน่านเป็นประธานเปิดโครงการสร้างฝายต้นน้ำลำธาร หรือฝายอนุรักษ์โดยมีทุกภาคส่วนราชการและประชาชนน่านให้การสนับสนุนสร้างฝายละ 1 พันบาท จำนวน 99 ฝาย เพื่อขับเคลื่อนและขยายผลโครงการปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
รายงานข่าวจากจังหวัดน่านแจ้งว่าวันนี้(12 พ.ย.) ที่บ้านห้วยปุก ต.สะเนียน อ.เมือง จ.น่าน นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดโครงการสนับสนุนการสร้างฝายต้นน้ำลำธาร หรือ ฝายอนุรักษ์ ที่ทุกภาคส่วนราชการในจังหวัดน่านให้การสนับสนุนก่อสร้างฝายละ 1 พันบาท ต่อ1 แห่ง จำนวน 99 ฝาย ทั้งนี้เพื่อขับเคลื่อนและขยายผลโครงการปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริจังหวัดน่าน ที่ได้ดำเนินการในพื้นที่ลุ่มน้ำต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดน่าน ติดต่อกันมาหลายปี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 อีกทั้งยังเพื่อขยายผลไปสู่ชุมชนท้องถิ่นอย่างกว้างขวาง โดยยึดหลักองค์ความรู้ 6 มิติ ประกอบด้วยองค์ความรู้ด้านน้ำ ดิน เกษตร พลังงานทดแทน ป่า และสิ่งแวดล้อม
นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า อุทกภัยที่กำลังทำร้ายภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทยอยู่ในเวลานี้ นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของภัยธรรมชาติแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนด้อยประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการน้ำ แม้หลายครั้งภัยธรรมชาติจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่หากมีการบริหารจัดการน้ำที่ดี รู้จักประยุกต์วิทยาศาสตร์ ภูมิปัญญาชาวบ้าน กับสภาพที่แท้จริงของพื้นที่เข้าด้วยกัน
นอกจากจะลดความรุนแรงลงได้แล้ว ยังจะทำให้มนุษย์กับธรรมชาติสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้อีกด้วย ซึ่งฝายชะลอน้ำ ทั้งฝายก่อหิน และฝายยางรถยนต์ เป็นโครงการที่สนองตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มุ่งหวังอยากให้พี่น้องประชาชนชาวไทยได้มีแหล่งน้ำไว้เพื่อการเกษตร ควบคู่กับรักษาสภาพความสมบูรณ์ทางระบบนิเวศน์ในพื้นที่ให้ยั่งยืน ตามทฤษฎีการพัฒนาฟื้นฟูป่าไม้ โดยการใช้ทรัพยากรที่เอื้ออำนวยสัมพันธ์ซึ่งกันและกันเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด สามารถแก้ไขปัญหาความแห้งแล้ง ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนในช่วงฤดูแล้ง ได้มีแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ เพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผืนดิน ต้นไม้ รวมถึงสัตว์น้ำต่างๆ และยังช่วยดักตะกอนหินและทราย ชะลอน้ำในช่วงฤดูฝน ไม่ให้เกิดน้ำป่าไหลหลากรุนแรง
อย่างไรก็ตาม โครงการนี้นอกจากจะสร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชนแล้ว ยังสามารถปลูกจิตสำนึกแก่เยาวชน ลูกหลานของเรา ให้ได้ตระหนักถึงคุณประโยชน์ของแหล่งน้ำในพื้นที่ต้นน้ำของชุมชนตนเอง ได้ช่วยกันอนุรักษ์ดิน น้ำ และทรัพยากรป่าไม้ของชาติ เพื่อให้คงสภาพความสมดุลทางธรรมชาติ เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพของป่า รักษาระบบนิเวศน์ เป็นแหล่งน้ำตามธรรมชาติสำหรับมนุษย์ สัตว์น้ำ และสัตว์ป่า ทั้งยังเป็นแหล่งกักเก็บน้ำสำหรับดับไฟป่าได้อีกด้วย สามารถสร้างระบบวงจรน้ำแก่ป่าไม้ในอนาคตสืบไปได้