ฉะเชิงเทรา- ชาวแปดริ้วรับผู้ประสบภัยน้ำท่วม สู่ศูนย์พักพิงค่ายทหาร พล.ร.11 ด้านพ่อเมืองคุยมีพื้นที่ไว้รอรองรับผู้ประสบภัย นับเรือนหมื่น
วันนี้( 10 พ.ย.54 ) ที่กองร้อยเครื่องยิงหนัก กรม ร.111 กองพลทหารราบที่ 11 ค่ายสมเด็จพระนั่งเกล้า ต.บางตีนเป็ด อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ขบวนรถ ขสมก. ขนส่งผู้อพยพลี้ภัยน้ำท่วม จากกรุงเทพฯ จำนวน 5 คัน พร้อมรถนำขบวน ได้เดินทางมาถึงยังที่พักพิงชั่วคราว ที่ถูกจัดตั้งขึ้นไว้รองรับประชาชนที่กำลังประสบอุทกภัยในเขตกรุงเทพมหานคร ได้เดินทางมาถึงจำนวนรวมกว่า 222 คน พร้อมด้วยสัมภาระ และสัตว์เลี้ยง ทั้งสุนัข แมว ฯลฯ ท่ามกลางการเดินทางมาต้อนรับอย่างอบอุ่นของหน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยมีนายกิตติ ทรัพย์วิสุทธิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ รองผู้ว่าฯ พ.อ.ทวีพูล ริมสาคร รอง ผบ.กรม ร.111 พร้อมเหล่ากาชาดจังหวัด และสำนักงานพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ จ.ฉะเชิงเทรา เดินทางมาคอยต้อนรับ
หลังผู้ประสบภัยเดินทางมาถึง มีเจ้าหน้าที่คอยรับลงทะเบียนอย่างอบอุ่น ท่ามกลางความดีอกดีใจอย่างเห็นได้ชัดของผู้ประสบอุทกภัย ที่ได้มาเดินเหยียบผืนดินอีกครั้ง หลังจากได้ก้าวเดินลงมาจากรถเมื่อมาถึงยังที่พักพิงแห่งนี้ และหลายคนยังเชื่อมมั่นถึงความปลอดภัยว่าจะไม่ถูกน้ำท่วมอีกแล้ว เพราะอยู่กับทหาร โดยจะไม่ต้องถูกอพยพย้ายหนีน้ำไปไหนอีกอย่างซ้ำซากเหมือนช่วงที่ผ่านมา
น.ส.เก่ง ศรีเศรษฐมาต อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/119 ม.8 ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี กล่าวถึงความรู้สึกว่าดีใจเป็นอย่างมากที่เท้าได้มาลงเหยียบแตะผืนดินอีกครั้ง หลังจากบ้านพักอยู่ที่คลองแปด ถูกน้ำท่วมมาเป็นเวลานานนับเดือนแล้ว จนต้องพาครอบครัวรวม 6 คน อพยพไปอยู่ที่บ้านญาติ ที่ย่านคลองสอง ต่อมาบ้านญาติที่ไปขออาศัยอยู่ด้วย ก็ยังมาถูกน้ำท่วมตามไปด้วยกันอีก จึงอพยพย้ายมาอยู่ยังศูนย์พักพิงชั่วคราว ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ย่านบางเขน แต่แล้วที่ ม.ราชภัฏฯ ก็ยังไม่รอดจากน้ำท่วมอีก จึงต้องย้ายมาอยู่ที่นี่อีกครั้ง และคิดว่าที่ค่าย พล.ร.11 แห่งนี้คงจะไม่ถูกน้ำท่วมจนต้องย้ายหนีไปไหนอีก เป็นหนที่ 4
ที่ผ่านมาขณะที่ไปขอพักอาศัยยังบ้านญาติ ได้ประสบกับเหตุการณ์สยองขวัญ สะเทือนใจจากเหตุเพื่อนบ้านของญาติถูกไฟฟ้าดูดตายต่อหน้าต่อตาโดยที่ไม่มีใครสามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ ขณะกำลังพายเรือหนีน้ำท่วมเข้าไปใกล้ยังเสาไฟฟ้า นอกจากนี้ ที่ศูนย์อพยพ ม.ราชภัฎพระนคร ยังมีผู้พบเห็นจระเข้ เข้ามาอาศัยอยู่ภายในอุโมงค์บางเขน 2-3 ตัว ซึ่งน่ากลัวมาก ประกอบกับยังมีงูอีกหลากหลายชนิดได้เข้ามาอาศัยอยู่ภายใน ม.ราชภัฏฯ ด้วย จึงได้ตัดสินใจที่จะย้ายหนีมาอยู่ที่นี่ดีกว่า
ด้าน นางละเอียด โล้อุนลุม อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 ม.7 ต.ท่าแล้ง เขตบางเขน กทม. กล่าวว่า หลังจากบ้านพักซึ่งอยู่ย่าน กม.4 ซอย 39 แยก 16 ถูกน้ำท่วมถึงคอ จึงได้อพยพหนีมาอยู่ยังที่หอประชุมโรงเรียนสาธิตภายใน ม.ราชภัฏพระนคร แต่น้ำก็ยังท่วมอีก จึงได้ย้ายหนีเข้าไปอยู่ในห้องเรียนของเด็กเล็กน้ำยังท่วมอีก จากนั้นจึงได้ย้ายขึ้นไปอยู่ยังบนอาคารเรียนของ ม.ราชภัฏฯ อีกครั้ง แต่ต่อมาน้ำก็ได้ไหลเข้ามาท่วมภายใน ม.ราชภัฏฯ สูงจนถึงเอวจึงต้องย้ายหนีขึ้นไปอยู่บนชั้น 2
ต่อมาทาง กทม. ได้ประกาศว่าจะมีน้ำทะเลหนุนสูงขึ้นมาอีกในวันที่ 15 พ.ย.54 นี้ จึงเกรงว่า จะถูกน้ำท่วมสูงหนักกว่าเก่า และกลัวถูกตัดขาดจากภายนอก ประกอบกับความเป็นอยู่ภายในศูนย์ของ ม.ราชภัฏฯ เริ่มแออัด เพราะมีผู้อพยพเข้ามาอยู่รวมกันมากถึงเกือบ 1 พันคน และเสบียงอาหารเริ่มร่อยหรอแล้ว จึงได้ยอมสมัครใจที่จะย้ายหนีเข้ามาอยู่ที่นี่อีกต่อหนึ่ง
ขณะที่ นายกิตติ ทรัพย์วิสุทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ จ.ฉะเชิงเทรา มีผู้ลี้ภัยเข้ามาอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวแล้ว จำนวนกว่า 300 คน โดยที่กองพลทหารราบที่ 11 มีเข้ามารวมในวันนี้ 160 คน รวมกับของเดิมอีก 62 คนเป็น 222 คน สำหรับ จ.ฉะเชิงเทรานั้น ถือว่ามีความพร้อมที่จะรองรับผู้อพยพจาก กทม. ได้อีกเป็นจำนวนมาก
ในเบื้องต้นนั้น ได้จัดเตรียมพื้นที่ไว้แล้ว รวม 4 ศูนย์ ซึ่งประกอบด้วย ศูนย์ฯ ค่ายทหาร พล.ร.11 , ศูนย์ ม.ราชภัฎราชนครินทร์ ,โรงเรียนดัดดรุณี โรงเรียนพุทธโสธร ซึ่งสามารถรองรับผู้อพยพได้กว่า 3,500 คน และยังสามารถที่จะขยายเพิ่มได้อีกจนสูงสุดถึงกว่า 8-9 พันคน ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ทั้ง 11 อำเภอของ จ.ฉะเชิงเทราเริ่มคลี่คลายลงแล้ว