จันทบุรี - แม่ค้าขายกระทงจันทบุรีหัวใสปรับกลยุทธ์ทำกระทงด้วยเปลือกข้าวโพด แทนการทำกระทงใบตอง หลังราคาดอกไม้และใบตองในปีนี้พุ่งสูง เหตุเป็นเพราะน้ำท่วมใบตองขาดตลาด
วันนี้ (9 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจบริเวณแถวย่านตลาดสดเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี พบว่า บรรยากาศการซื้อขายกระทงในปีนี้ไม่คึกคักเท่าที่ควร เนื่องจากพบว่ากระทงใบตองที่มีการนำมาวางขายมีราคาสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา รวมถึงวัสดุทำกระทง เช่น ใบตองจากเดิมขายมัดละ 40-50 บาท ปรับขึ้นเป็นมัดละ 60-80 บาท ส่วนหยวกกล้วยจากเดิมขายอยู่ที่ชิ้นละ 8-10 บาท ปรับขึ้นเป็น 15-20 บาทแล้วแต่ขนาดใหญ่เล็ก และธูปเทียนจากเดิมขายชุดละ 10 บาท ปรับขึ้นเป็น 15 บาท ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ต้นทุนสูงพ่อค้าแม่ค้าขายกระทงก็ต้องมีการปรับราคากระทงขึ้นตามไปด้วยทั้งนี้มาจากสาเหตุมาจากภาวะน้ำท่วมใบตองขาดตลาด
แต่ถึงอย่างไร นางสาวเล็ก แม่ค้าขายดอกไม้ และขายกระทงในตลาดสดเขตเทศบาลเมืองจันท์ ได้มีการปรับกลยุทธ์แหวกแนวและหัวใส โดยการทำกระทงด้วยเปลือกข้าวโพดแทนการทำกระทงใบตองที่มีราคาแพง เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค และประชาชนได้เลือกซื้อกระทงที่ไม่แพงเกินไป และกระทงเปลือกข้าวโพดก็สามารถลอยได้เหมือนกับกระทงใบตองทั่วๆ ไป
รวมทั้งยังไม่เป็นการทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีกด้วยแถมมีราคาไม่แพงเหมือนกับกระทงใบตองด้วย โดยกระทงเปลือกข้าวโพดที่ทำขึ้นจะมีการประดับตกแต่งด้วยดอกไม้ โดยกระทงเปลือกข้าวโพดทีทำขึ้นจะขายราคาเดียว คือ ราคา 70 บาท เท่านั้น
นางสาวเล็ก กล่าวว่า ปีนี้ราคาดอกไม้และวัสดุการทำกระทงแพงขึ้นทุกอย่าง ซึ่งแม่ค้าให้เหตุผลว่าเกิดจากวิกฤตการณ์น้ำท่วมทำให้ใบตองขาดแคลน ทำให้สินค้าหลายอย่างปรับตัวขึ้นสูง ทำให้ตนเองจึงมีการปรับกลยุทธ์แหวกแนวนำเอาวัสดุอื่นๆมาทำแทนใบตอง คือ การใช้หยวกกล้วยและนำเปลือกข้าวโพดมาจัดทำเป็นกลีบกระทง ร่วมกับดอกไม้ และจัดตกแต่งแต้มด้วยสีธรรมชาติให้ดูสวยงามเป็นอันเสร็จ
จากนั้นได้นำมาวางขาย ซึ่งได้รับความนิยมและความสนใจจากผู้บริโภค เยาวชน และประชาชนมาเลือกซื้อเป็นจำนวนมาก เพื่อเตรียมนำไปลอยในวันลอยกระทงที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ด้วย พร้อมกันนี้กระทงเปลือกข้าวโพดสามารถเก็บไว้ได้หลายวันไม่เหี่ยวแห้งเหมือนกับกระทงใบตองที่ไม่สามารถอยู่ได้นาน
นอกจากนี้ ยังไม่พบว่ามีแม่ค้าพ่อค้าคนไหนทำกระทงลักษณะนี้ขายเลย ตนเองเป็นเจ้าแรกที่ทำกระทงเปลือกข้าวโพดออกมาขายและก็ขายดีและได้รับความนิยมจากผู้บริโภค เยาวชน และประชาชนมาเลือกซื้อกันเป็นจำนวนมากอีกด้วย
วันนี้ (9 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจบริเวณแถวย่านตลาดสดเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี พบว่า บรรยากาศการซื้อขายกระทงในปีนี้ไม่คึกคักเท่าที่ควร เนื่องจากพบว่ากระทงใบตองที่มีการนำมาวางขายมีราคาสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา รวมถึงวัสดุทำกระทง เช่น ใบตองจากเดิมขายมัดละ 40-50 บาท ปรับขึ้นเป็นมัดละ 60-80 บาท ส่วนหยวกกล้วยจากเดิมขายอยู่ที่ชิ้นละ 8-10 บาท ปรับขึ้นเป็น 15-20 บาทแล้วแต่ขนาดใหญ่เล็ก และธูปเทียนจากเดิมขายชุดละ 10 บาท ปรับขึ้นเป็น 15 บาท ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ต้นทุนสูงพ่อค้าแม่ค้าขายกระทงก็ต้องมีการปรับราคากระทงขึ้นตามไปด้วยทั้งนี้มาจากสาเหตุมาจากภาวะน้ำท่วมใบตองขาดตลาด
แต่ถึงอย่างไร นางสาวเล็ก แม่ค้าขายดอกไม้ และขายกระทงในตลาดสดเขตเทศบาลเมืองจันท์ ได้มีการปรับกลยุทธ์แหวกแนวและหัวใส โดยการทำกระทงด้วยเปลือกข้าวโพดแทนการทำกระทงใบตองที่มีราคาแพง เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค และประชาชนได้เลือกซื้อกระทงที่ไม่แพงเกินไป และกระทงเปลือกข้าวโพดก็สามารถลอยได้เหมือนกับกระทงใบตองทั่วๆ ไป
รวมทั้งยังไม่เป็นการทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีกด้วยแถมมีราคาไม่แพงเหมือนกับกระทงใบตองด้วย โดยกระทงเปลือกข้าวโพดที่ทำขึ้นจะมีการประดับตกแต่งด้วยดอกไม้ โดยกระทงเปลือกข้าวโพดทีทำขึ้นจะขายราคาเดียว คือ ราคา 70 บาท เท่านั้น
นางสาวเล็ก กล่าวว่า ปีนี้ราคาดอกไม้และวัสดุการทำกระทงแพงขึ้นทุกอย่าง ซึ่งแม่ค้าให้เหตุผลว่าเกิดจากวิกฤตการณ์น้ำท่วมทำให้ใบตองขาดแคลน ทำให้สินค้าหลายอย่างปรับตัวขึ้นสูง ทำให้ตนเองจึงมีการปรับกลยุทธ์แหวกแนวนำเอาวัสดุอื่นๆมาทำแทนใบตอง คือ การใช้หยวกกล้วยและนำเปลือกข้าวโพดมาจัดทำเป็นกลีบกระทง ร่วมกับดอกไม้ และจัดตกแต่งแต้มด้วยสีธรรมชาติให้ดูสวยงามเป็นอันเสร็จ
จากนั้นได้นำมาวางขาย ซึ่งได้รับความนิยมและความสนใจจากผู้บริโภค เยาวชน และประชาชนมาเลือกซื้อเป็นจำนวนมาก เพื่อเตรียมนำไปลอยในวันลอยกระทงที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ด้วย พร้อมกันนี้กระทงเปลือกข้าวโพดสามารถเก็บไว้ได้หลายวันไม่เหี่ยวแห้งเหมือนกับกระทงใบตองที่ไม่สามารถอยู่ได้นาน
นอกจากนี้ ยังไม่พบว่ามีแม่ค้าพ่อค้าคนไหนทำกระทงลักษณะนี้ขายเลย ตนเองเป็นเจ้าแรกที่ทำกระทงเปลือกข้าวโพดออกมาขายและก็ขายดีและได้รับความนิยมจากผู้บริโภค เยาวชน และประชาชนมาเลือกซื้อกันเป็นจำนวนมากอีกด้วย