พระนครศรีอยุธยา - นายกรัฐมนตรีนำคณะลงตรวจเยี่ยมพื้นที่กรุงเก่า กดปุ่มเดินเครื่องสูบน้ำกู้นิคมฯ พร้อมแจกเงินเยี่ยวยาและถุงยังชีพชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยในเบื้องต้น ฟุ้งลั่น "ขอบูรณะบ้านเมืองให้คืนสู่ชีวิตโดยปกติสุขเร็วที่สุด รัฐบาลนี้มาจากประชาชน ทำจากสมอง ไม่เคยทิ้งประชาชน
เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (8 พ.ย.54) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะ เดินทางมาที่ศูนย์ราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจเยี่ยมประชาชนที่ประสบอุทกภัย พร้อมแจกถุงยังชีพจำนวน 20,000 ชุด และมอบเงินเยียวยาครอบครัวละ 5,000 บาทตำนวน 500 ครอบครัว มอบของให้เจ้าหน้าที่ชุมชนและอาสาสมัคร 5,000 ชุด มอบเงินไฟไหม้บ้านระหว่างน้ำท่วมหลังละ 50,000 บาท พร้อมเยี่ยมแพทย์เคลื่อนที่และติดตามเร่งรัดการฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรมและโบราณสถาน
จากนั้นเปิดโครงการซ่อมแซมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า และรับมอบน้ำยา EM จำนวน 2 แสนลิตรและโดก้าบอล จำนวน 2 แสน ลูกจากเจ้าหน้าที่ จ.นครพนม พร้อมมอบต่อให้นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่กำลังเดือดร้อนน้ำเน่าเสียต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวบนเวทีว่า “จากการต่อสู้มากับน้ำท่วมมานานดิฉันได้พลังจากประชาชนคืนมาขอให้ฝันร้ายนี้หายไปจากประเทศไทย ขอบูรณะบ้านเมืองให้คืนสู่ชีวิตโดยปกติสุขเร็วที่สุด รัฐบาลนี้มาจากประชาชน ทำจากสมอง ไม่เคยทิ้งประชาชน ขอให้พวกเรารวมพลังเดินไปข้างหน้า สุดท้าย ขอให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ก้าวสู้วิกฤตนี้ไปให้ได้"
ต่อมานายกรัฐมนตรี ได้ปลูกต้นไม้หน้าศูนย์ราชการ ร่วมบูรณะสวนหย่อมที่เจดีย์วัดสามปลื้ม เยี่ยมโบราณสถานป้อมเพชรแล้วเดินทางไปที่บริเวณประตูระบายน้ำคลองมะขามเรียง พร้อมฟังบรรยายสรุปจากว่าที่ ร.ต.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยาและกดปุ่มเดินเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำจากเกาะเมืองออกสู่แม่น้ำป่าสักเป็นปฐมฤกษ์ คาดว่าภายใน 3 วันน้ำในเกาะเมืองอยุธยาแห้ง
เวลา 17.30 น.นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางไปที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ อ.อุทัย บริเวณโซน C เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และกดปุ่มเดินเครื่องสูบน้ำออกจากนิคมที่ยังมีน้ำขังอยู่ประมาณ 10 ล้าน ลบ.ม.ใช้เวลาสูบ 20 วันจะแล้วเสร็จตามที่กำหนดเพื่อเร่งฟื้นฟูและเดินทางต่อไปที่นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า(ไฮเทค) อ.บางปะอิน เพื่อเยี่ยมให้กำลังเจ้าหน้าที่พร้อมกู้นิคมต่อไป
นายประยูร ติ่งทอง อุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า วันนี้คณะทำงานได้เข้าฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรม พร้อมกันทั้ง 4 แห่ง คือ สวนอุตสาหกรรมโรจนะ อ.อุทัย โดยมีนายกรัฐมนตรี กดปุ่มเครื่องสูบน้ำเป็นปฐมฤกษ์ นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า(ไฮเทค) อ.บางปะอิน นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน และเขตประกอบการอุตสาหกรรมแฟตเตอรรี่แลนวังน้อย
สำหรับที่นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร อ.นครหลวง ยังมีน้ำจำนวนมากท่วมสูงกว่าคันดินมีปริมาณน้ำอีก 100 ล้าน ลบ.ม.จึงต้องใช้วิธีระบายแบบธรรมชาติก่อนให้น้ำในทุ่งลดลงจนมองเห็นคันดินและเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำลพบุรี โดยมีการวางแผนขออนุญาตกรมทางชนบทเจาะถนนสายบางปะหัน-บางเดื่อ โดยประสานทหารกองพลพัฒนานำเครื่องจักรทำการเจาะและสร้างสะพานแบริ่งชั่วคราวให้ประชาชนใช้สัญจรได้ตามปกติ
