xs
xsm
sm
md
lg

โดนร้านเหล้าตะโกนด่า-ข่มขู่ ชาวลอยเคราะห์ใจยังสู้รวมตัวแจ้งความ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ชาวชุมชนลอยเคราะห์ รวมตัวขึ้นโรงพักแจ้งความหลังแกนนำโดนร้านเหล้าข้างบ้านตะโกนด่า-ข่มขู่ โวยถ้าไม่หยุดระวังจะเจอดี ด้านแกนนำยันยังเดินหน้าเคลื่อนไหวต่อแม้โดนหาเรื่อง ระบุ ชาวบ้านเริ่มผวากลัวมวยล้ม แม้ภาครัฐเริ่มเดินหน้าจัดการปัญหา ล่าสุด ตำรวจเข้าหารือชุมชนบ้านพร้อมแจ้งเตรียมตั้งสถานีย่อยในพื้นที่ดูแลความสงบ

กลุ่มประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานบันเทิงย่านถนนลอยเคราะห์ จังหวัดเชียงใหม่ เดินทางเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่วานนี้ (6 พ.ย.) หลังจากถูกเจ้าของสถานบันเทิงแห่งหนึ่งพูดจาข่มขู่

โดย นายศุภชัย พรหมเทพ ตัวแทนชุมชนถนนลอยเคราะห์เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 01.25 ของวันที่ 6 พ.ย.ตนได้เดินทางกลับเข้าบ้านตามปกติ ระหว่างนั้นพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจมาที่ร้านพาราไดส์ บาร์ ซึ่งอยู่ติดกับบ้านของตน เพื่อเตือนให้ทางร้านปิดให้บริการ เนื่องจากมีผู้โทรศัพท์ไปร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทางร้านดังกล่าวส่งเสียงดังรบกวน รวมทั้งเปิดให้บริการเกินเวลา

นายศุภชัย กล่าวต่อไปว่า ระหว่างที่พบเห็นเหตุการณ์นั้น ตนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับร้อยตำรวจโท นคร อุ่นตาน รองสวป.สภ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลกรณีความเดือดร้อนขอชุมชนถนนลอยเคราะห์ แต่ไม่ได้โทรศัพท์ไปร้องเรียนเรื่องร้านพาราไดส์ บาร์แต่อย่างใด เป็นเพียงการโทรศัพท์ปรึกษาหารือกันตามปกติเท่านั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาประชุมหารือกับช่าวชุมชนลอยเคราะห์เกี่ยวกับปัญหาจากบาร์เบียร์และสถานบันเทิงไปเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ตนเข้าไปในบ้านแล้ว ปรากฏว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. นายเล็ก เจ้าของร้านพาราไดส์ บาร์และพวกได้เดินมาตะโกนพูดจาข่มขู่หาเรื่องที่หน้าบ้านของตน โดยตะโกนด่าและพูดจาหยาบคายอยู่ร่วม 20 นาที ก่อนจะสลายตัวไป ในระหว่างนั้นตนและภรรยาได้ลงจากชั้นบนของบ้านมาดูเหตุการณ์ แต่ไม่ได้ออกไปหน้าบ้าน เนื่องจากภรรยาห้ามไว้

ขณะเดียวกัน ภรรยาก็ได้นำโทรศัพท์มาบันทึกเสียงการพูดจาข่มขู่ของนายเล็กบางส่วนเอาไว้ หลังจากนั้นในช่วงเช้าตนจึงได้นำเรื่องแจ้งต่อกลุ่มชุมชนลอยเคราะห์ ก่อนจะตัดสินใจเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

นายศุภชัย ระบุว่า การข่มขู่ดังกล่าวทำให้ชาวชุมชนลอยเคราะห์เกิดความหวาดกลัว เนื่องจากปัญหาจากสถานบันเทิงและบาร์เบียร์ต่างๆ ได้ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของคนในชุมชนมาอย่างยาวนาน แต่เมื่อทางราชการเริ่มมีการเคลื่อนไหวเพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหากลับเกิดการข่มขู่คุกคามขึ้น

อย่างไรก็ตาม ถือว่ายังโชคดีที่เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นกับตนซึ่งเป็นคนหนุ่ม ไม่ได้เกิดกับเด็กๆ หรือผู้สูงอายุในชุมชนซึ่งคงไม่มีทางสู้ ทั้งนี้ตนในฐานะตัวแทนชุมชนถนนลอยเคราะห์ยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อสู้กับปัญหาสถานบันเทิงและบาร์เบียร์ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับชุมชนลอยเคราะห์ต่อไปแม้ว่าจะถูกข่มขู่หาเรื่องก็ตาม

ทั้งนี้ จากการฟังเสียงที่ภรรยานายศุภชัยได้ทำการบันทึกจากเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ พบว่า เป็นเสียงผู้ชายที่ตะโกนโวยวายในลักษณะคล้ายจะต้องการหาเรื่อง โดยมีเนื้อหาโดยสรุปคือ ผู้ที่ไปฟ้องเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นไม่ใช่นักเลงจริง ถ้าแน่จริงให้ออกมาคุยกัน ทุกวันนี้คนที่ฟ้องก็ไม่ได้ดูแลอะไร ตนเองทำมาหากินไม่ได้ไปเบียดเบียนอะไรใคร ไม่อยากยุ่งกับใคร แต่ถ้าคนอื่นไม่หยุดตนเองก็ไม่หยุด ระวังจะเจอดีเข้าสักวัน

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งความกรณีดังกล่าวในข้อหาข่มขู่แล้ว โดยระบุว่าหลังจากนี้จะมีการแจ้งให้นายเล็ก หรือ นายธนวัฒน์ ทิพย์ปัญญา เจ้าของร้านพาราไดส์ บาร์มารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

กรณีการข่มขู่จากผู้ประกอบการสถานบันเทิงและบาร์เบียร์ต่อกลุ่มประชาชนผู้ต่อต้านที่ได้รับความเดือดร้อนนั้น เกิดขึ้นหลังจากที่กลุ่มประชาชนจากชุมชนต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ได้รวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่พร้อมด้วยนายอำเภอเมือง และกองร้อยอาสารักษาดินแดน ร่วมกันตรวจดูสถานบันเทิงในพื้นที่ ถ.ลอยเคราะห์ ถ.ช้างม่อย และกาดบุญอยู่ เมื่อวันที่ 2 พ.ย.

ต่อจากนั้น เมื่อวันที่ 4 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ นำโดย พ.ต.อ.มนตรี สัมบุณณานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้เข้าประชุมหารือร่วมกับประชาชนชุมชนถนนลอยเคราะห์ ณ วัดลอยเคราะห์ โดยในการหารือดังกล่าว พ.ต.อ.มนตรีได้แจ้งว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมที่จะตั้งสถานีย่อยขึ้นบนถนนลอยเคราะห์ซึ่งจะสามารถรับแจ้งความได้ทันที โดยในเบื้องต้นจะอยู่ที่บริเวณถนนลอยเคราะห์ ซอย 1 ซึ่งจะมีผู้ยกพื้นที่ให้ใช้ประโยชน์ หลังจากนั้นจึงจะมีการตั้งป้อมยามถาวรบริเวณหน้าวัดลอยเคราะห์ต่อไป ขณะเดียวกัน จะให้มีสายตรวจเข้าประจำอยู่บนถนนลอยเคราะห์อย่างต่อเนื่องเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยด้วย

จากการสอบถามประชาชนในพื้นที่ พบว่า หลังจากที่มีการเคลื่อนไหวร้องเรียนกรณีปัญหาสถานบันเทิง และผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมคณะได้เข้ามาดูพื้นที่ ทำให้บาร์เบียร์ต่างๆ ส่วนใหญ่มีการปิดให้บริการตามเวลามากขึ้น ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมาก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกตรวจตราและแจ้งให้บาร์เบียร์และสถานบันเทิงต่างๆ ปิดให้บริการตามเวลาเช่นกัน

อนึ่ง สำหรับปริมาณสถานบันเทิงบนถนนลอยเคราะห์ในปัจจุบัน จากการสำรวจของกลุ่มประชาชนชุมชนถนนลอยเคราะห์ พบว่า มีสถานบันเทิงที่เปิดอยู่ติดถนนประมาณ 42 ร้าน รวมทั้งยังมีพลาซ่าอีก 2 แห่ง ซึ่งภายในมีสถานบันเทิงจำนวนมากตั้งอยู่ด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น