เพชรบุรี - จังหวัดเพชรบุรีเตรียมพร้อมเปิดครัวน้ำใจ...คนไทยไม่ทิ้งกัน ด้านประชาชนที่ประสบอุทกภัยเริ่มทยอยเข้าพักที่ศูนย์พักพิงแล้ว
นายยุทธพล อังกินันทน์ ส.ส.จังหวัดเพชรบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา ร่วมกับเทศบาลเมืองเพชรบุรี สำนักงานเกษตรจังหวัดเพชรบุรี สำนักงานปศุสัตว์เพชรบุรี เครือข่ายพัฒนาธุรกิจ กลุ่มพัฒนาสตรี ร่วมมือกันเปิดครัวน้ำใจ..คนไทยไม่ทิ้งกัน ซึ่งเป็นการจัดตั้งโรงครัวสำหรับทำอาหารให้กับผู้พักพิงที่ประสบอุทกภัยที่เข้ามาพักพิงในศูนย์พักพิงที่จัดเตรียมไว้ในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ทั้งหมด 6 จุดด้วยกัน ซึ่งสามารถรองรับผู้ประสบอุทกภัยได้มากกว่า 2,500 คน
โดยมีการเตรียมพร้อมหากได้รับการประสานงานมาจากศูนย์พักพิงให้เข้าไปช่วยเหลือในเรื่องของการทำอาหาร ปรุงอาหารโดยจะมีการดูแลเป็นพิเศษ โดยมีการแบ่งหน้าที่คือด้านเกษตรจังหวัดเพชรบุรีจะเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบจำพวกพืชผักผลไม้ต่างๆ ด้านปศุสัตว์จังหวัดจะเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบจำพวกเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เนื้อวัว แพะ เป็ด ไข่ ไก่ เป็นต้นเพื่อที่จะนำมาประกอบอาหาร
โดยมีกลุ่มพัฒนาสตรีของแต่ละตำบลใน 8 อำเภอ ที่มีมากถึง 4,500 คนจะเป็นผู้ดำเนินการทำ ปรุง และประกอบอาหารเมนูต่างๆ ให้กับผู้พักพิงได้รับประทาน นอกจากนี้ ด้านกลุ่มเครือข่ายพัฒนาธุรกิจจะเข้ามาดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจให้กับผู้พักพิงโดยการนำพาไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ของจังหวัดเพชรบุรีรวมถึงมีการจัดกิจกรรมสันทนาการจำพวกมีการแสดงละครชาตรี และจัดกิจกรรมอื่นๆ ให้กับผู้พักพิงได้มีส่วนร่วมสนุกผ่อนคลายความตึงเครียดอีกด้วย
นายยุทธพล อังกินันทน์ ส.ส.จังหวัดเพชรบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยว่า มีความยินอย่างยิ่งในการต้อนรับผู้ประสบอุทกภัยทุกท่านที่จะเข้ามาพักพิงในพื้นที่ จ.เพชรบุรี และพร้อมให้การช่วยเหลือเป็นเจ้าภาพในการเลี้ยงอาหารกับผู้พักพิง โดยได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย สำหรับครัวดังกล่าวเมื่อได้รับการประสานมาทางกลุ่มที่มีการเตรียมพร้อมอยู่แล้วก็จะยกครัวเคลื่อนที่ไปตั้งในทันทีโดยใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง ก็จะสามารถประกอบอาหารให้กับผู้พักพิงได้รับประทานได้ในทันที โดยทุกฝ่ายพร้อมทั้งวัตถุดิบและผู้ประกอบอาหารเพียงแค่ประสานมาเท่านั้นจะเดินทางไปช่วยเหลือในทันที
ส่วนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี หลังจากที่เปิดศูนย์พักพิงรับรองผู้ประสบอุทกภัยเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดภาคกลาง โดยเฉพาะจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี และกรุงเทพมหานคร มาตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด พบว่า ขณะนี้มีผู้ประสบภัยเดินทางมาแจ้งความประสงค์ขอเข้าพักที่ศูนย์กันอย่างต่อเนื่อง ที่ส่วนใหญ่เดินทางมาจากอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ขณะที่บางส่วนก็ถูกส่งมาจากศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยมหาวิทยาลัยมหิดล โดยทางศูนย์ได้มีการเตรียมอาหาร เครื่องอำนวยความสะดวกไว้รองรับผู้ประสบภัยไว้อย่างพร้อมเพรียง ที่มีทั้งที่นอน หมอน โทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต อาหารและเครื่องดื่มต่างๆ ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับประชาชนที่เดินทางมาเป็นอย่างมาก
ในขณะเดียวกัน ที่ศูนย์อพยพแห่งนี้ นอกจากจะมีเจ้าหน้าที่ของวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี แล้ว ก็ยังมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดเพชรบุรี ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานพัฒนาสังคมของมนุษย์ และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลพระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยงานที่สำคัญอีกหน่วยงานหนึ่ง โดยนางสาวสิริรัตน์ กตเวทิตาวงศ์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลพระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในแต่ละวัน จะมีพยาบาลวิชาชีพ เดินทางมาประจำที่ศูนย์แห่งนี้
โดยในช่วงเวลากลางวันจะมีพยาบาลอยู่ประจำศูนย์ 4 คน ขณะที่ในเวลากลางคืน ก็จะมีพยาบาลมาประจำที่ศูนย์ 2 คน นอกจากนี้ ยังได้มีการเปิดโรงพยาบาลสนาม ไว้ภายในศูนย์แห่งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้อพยพ และหากผู้อพยพมีอาการหนักเกินกว่าที่ทางโรงพยาบาลสนามจะรักษาได้ ก็จะมีการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลทันที
นายยุทธพล อังกินันทน์ ส.ส.จังหวัดเพชรบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา ร่วมกับเทศบาลเมืองเพชรบุรี สำนักงานเกษตรจังหวัดเพชรบุรี สำนักงานปศุสัตว์เพชรบุรี เครือข่ายพัฒนาธุรกิจ กลุ่มพัฒนาสตรี ร่วมมือกันเปิดครัวน้ำใจ..คนไทยไม่ทิ้งกัน ซึ่งเป็นการจัดตั้งโรงครัวสำหรับทำอาหารให้กับผู้พักพิงที่ประสบอุทกภัยที่เข้ามาพักพิงในศูนย์พักพิงที่จัดเตรียมไว้ในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ทั้งหมด 6 จุดด้วยกัน ซึ่งสามารถรองรับผู้ประสบอุทกภัยได้มากกว่า 2,500 คน
โดยมีการเตรียมพร้อมหากได้รับการประสานงานมาจากศูนย์พักพิงให้เข้าไปช่วยเหลือในเรื่องของการทำอาหาร ปรุงอาหารโดยจะมีการดูแลเป็นพิเศษ โดยมีการแบ่งหน้าที่คือด้านเกษตรจังหวัดเพชรบุรีจะเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบจำพวกพืชผักผลไม้ต่างๆ ด้านปศุสัตว์จังหวัดจะเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบจำพวกเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เนื้อวัว แพะ เป็ด ไข่ ไก่ เป็นต้นเพื่อที่จะนำมาประกอบอาหาร
โดยมีกลุ่มพัฒนาสตรีของแต่ละตำบลใน 8 อำเภอ ที่มีมากถึง 4,500 คนจะเป็นผู้ดำเนินการทำ ปรุง และประกอบอาหารเมนูต่างๆ ให้กับผู้พักพิงได้รับประทาน นอกจากนี้ ด้านกลุ่มเครือข่ายพัฒนาธุรกิจจะเข้ามาดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจให้กับผู้พักพิงโดยการนำพาไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ของจังหวัดเพชรบุรีรวมถึงมีการจัดกิจกรรมสันทนาการจำพวกมีการแสดงละครชาตรี และจัดกิจกรรมอื่นๆ ให้กับผู้พักพิงได้มีส่วนร่วมสนุกผ่อนคลายความตึงเครียดอีกด้วย
นายยุทธพล อังกินันทน์ ส.ส.จังหวัดเพชรบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยว่า มีความยินอย่างยิ่งในการต้อนรับผู้ประสบอุทกภัยทุกท่านที่จะเข้ามาพักพิงในพื้นที่ จ.เพชรบุรี และพร้อมให้การช่วยเหลือเป็นเจ้าภาพในการเลี้ยงอาหารกับผู้พักพิง โดยได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย สำหรับครัวดังกล่าวเมื่อได้รับการประสานมาทางกลุ่มที่มีการเตรียมพร้อมอยู่แล้วก็จะยกครัวเคลื่อนที่ไปตั้งในทันทีโดยใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง ก็จะสามารถประกอบอาหารให้กับผู้พักพิงได้รับประทานได้ในทันที โดยทุกฝ่ายพร้อมทั้งวัตถุดิบและผู้ประกอบอาหารเพียงแค่ประสานมาเท่านั้นจะเดินทางไปช่วยเหลือในทันที
ส่วนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี หลังจากที่เปิดศูนย์พักพิงรับรองผู้ประสบอุทกภัยเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดภาคกลาง โดยเฉพาะจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี และกรุงเทพมหานคร มาตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด พบว่า ขณะนี้มีผู้ประสบภัยเดินทางมาแจ้งความประสงค์ขอเข้าพักที่ศูนย์กันอย่างต่อเนื่อง ที่ส่วนใหญ่เดินทางมาจากอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ขณะที่บางส่วนก็ถูกส่งมาจากศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยมหาวิทยาลัยมหิดล โดยทางศูนย์ได้มีการเตรียมอาหาร เครื่องอำนวยความสะดวกไว้รองรับผู้ประสบภัยไว้อย่างพร้อมเพรียง ที่มีทั้งที่นอน หมอน โทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต อาหารและเครื่องดื่มต่างๆ ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับประชาชนที่เดินทางมาเป็นอย่างมาก
ในขณะเดียวกัน ที่ศูนย์อพยพแห่งนี้ นอกจากจะมีเจ้าหน้าที่ของวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี แล้ว ก็ยังมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดเพชรบุรี ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานพัฒนาสังคมของมนุษย์ และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลพระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยงานที่สำคัญอีกหน่วยงานหนึ่ง โดยนางสาวสิริรัตน์ กตเวทิตาวงศ์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลพระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในแต่ละวัน จะมีพยาบาลวิชาชีพ เดินทางมาประจำที่ศูนย์แห่งนี้
โดยในช่วงเวลากลางวันจะมีพยาบาลอยู่ประจำศูนย์ 4 คน ขณะที่ในเวลากลางคืน ก็จะมีพยาบาลมาประจำที่ศูนย์ 2 คน นอกจากนี้ ยังได้มีการเปิดโรงพยาบาลสนาม ไว้ภายในศูนย์แห่งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้อพยพ และหากผู้อพยพมีอาการหนักเกินกว่าที่ทางโรงพยาบาลสนามจะรักษาได้ ก็จะมีการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลทันที
