เพชรบุรี - สภาพอากาศแปรปรวน เดี๋ยวฝนตกเดี๋ยวแดดออก ทำให้ “จิ้งจก” ตัวหนึ่งปรับสีตัวตามสภาพอากาศไม่ทัน ทำให้ตัวมีสีแดงเป็นจ้ำ
เมื่อเวลา 19.00 น.ของคืนวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า พบจิ้งจกลำตัวมีสีแดงอยู่ที่บ้านของนางทองบาง มีพราย อยู่บ้านเลขที่ 33 หมู่ 5 ต.โพไร่หวาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี จึงรุดไปดูพบจิ้งจกตัวดังกล่าวเกาะอยู่บนกำแพงปูนของบ้าน โดยลักษณะที่เห็นครั้งแรกพบว่าจิ้งจกมีลำตัวด้านข้าง นิ้วเท้าหน้า เท่าหลัง และหาง เป็นสีแดงทั้งหมด ส่วนด้านบนหัวและลำตัวเป็นสีผิวปกติของจิ้งจก โดยครั้งแรกที่พบเห็นต่างพากันพูดเดาว่าจิ้งจกไปตกถังสีแดงมาหรือเปล่า
จากนั้นเจ้าของบ้านจึงได้ไล่จับมาใส่กรงตาข่ายขนาดเล็ก และสามารถเห็นบริเวณส่วนใต้ท้องของจิ้งจกได้อย่างชัดเจน ซึ่งพบว่าใต้ท้องตั้งแต่ส่วนคางจนถึงปลายหางมีสีแดงเป็นสีเลือดที่บางจุดเป็นจ้ำๆ ตลอดทั้งตัวเจ้าของบ้าน จึงได้เลี้ยงไว้เพื่อรอดูว่าจิ้งจกตัวดังกล่าวจะเปลี่ยนกลับเป็นสีเดิมหรือไม่ โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาวันนี้ (26 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปดูจิ้งจกตัวเดิมอีกครั้งและพบว่าจิ้งจก ยังอยู่ในสภาพเดิมคือลำตัวทุกส่วนยังมีสีแดง
นางทองบางเปิดเผยว่า ไม่เคยพบเห็นจิ้งจกสีแดงมาก่อน ปกติในบ้านจะมีจิ้งจกเยอะแต่ลำตัวก็มีสีปกติ และคิดว่าจะเลี้ยงจิ้งจกตัวนี้ไปก่อนเพื่อจะรอดูว่าจิ้งจกจะเปลี่ยนหรือกลับสู่สภาพเดิมหรือไม่ อีกทั้งเป็นจิ้งจกที่แปลกและไม่เคยพบเห็นอีกด้วย ส่วนชาวบ้านที่ทราบข่าวว่าพบจิ้งจกที่ลำตัวมีสีแดงต่างแหพากันมาดูและต่างตีโพยตีพายกันไปต่างๆ นานา บางคนก็ขอหวย ตีเลขเด็ด
จากการสันนิษฐานคาดว่า จิ้งจกที่เปลี่ยนสีอาจเป็นผลจากอุณหภูมิของอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทำให้จิ้งจกปรับตัวไม่ทันให้เข้ากับลักษณะสภาพอากาศที่วันหนึ่งมีทั้งฝนตก แดดออก จนทำให้เจ้าของบ้านต้องเปิดปิดไฟสลับไปมาตามสภาพอากาศที่แปรปรวนตลอดเวลา จนทำให้จิ้งจกอาจปรับตัวและสภาพสีผิวไม่ทัน จนทำให้ลำตัวมีสีแดงขึ้นมา อีกส่วนหนึ่งอาจเกิดมาจากการกลายพันธุ์ เนื่องจากความผิดปกติของยีนที่ควบคุมลักษณะของสีผิว