พิจิตร - รองเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรเป็นตัวแทนรับสิ่งของบริจาคจากคณะสงฆ์ในภาคเหนือที่นำของบริจาคทั้งข้าวสารอาหารแห้งที่รับมาจากคณะศรัทธาตามวัดต่างๆ เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่พิจิตร และภาคกลางทั้งหมด วอนอย่านำสิ่งของบริจาคใช้เป็นเครื่องมือหาเสียงเพราะมันบาป
พระครูวชิรพุทธานุกูล (พระมหาวิรัช) รองเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และพระธรรมรัตนดิลก เจ้าคณะภาค 4 พระราชสุตาภรณ์ รองเจ้าคณะภาค 4 ได้เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ของภาคเหนือตอนล่าง และหลายจังหวัดภาคกลางที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ส่งผลให้ญาติธรรมรวมถึงพระสงฆ์เป็นจำนวนมากได้รับความเดือดร้อนทั้งที่อยู่อาศัย รวมถึงข้าวปลาอาหารที่ใช้ในการดำรงชีพในชีวิตประจำวัน
ดังนั้น เพื่อเป็นการแสดงถึงความห่วงใยอาทรที่ชาวพุทธมีให้กันโดยยึดหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าว่า ยามมีทุกข์เข็ญจะได้เห็นใจกันก็ต่อเมื่อกัลยาณมิตรได้หยิบยื่นน้ำใจให้กัน
ทั้งนี้ หากแห่งหนตำบลใดที่ถูกน้ำท่วมขังยาวนานแล้วขาดแคลนสิ่งของในการดำรงชีพ หรืออยากให้คณะสงฆ์ไปตั้งโรงครัว โรงทาน หุงข้าวปลาอาหารเลี้ยงชาวบ้านก็สามารถติดต่อที่นายอำไพ มั่งคล้าย ไวยาวัจกรวัดท่าหลวง พระอารามหลวง จ.พิจิตร แต่ขอร้องว่าอย่าใช้เล่ห์กลเอาถุงยังชีพของธารน้ำใจจากชาวพุทธและจากพระสงฆ์ไปเป็นเครื่องมือในการหาเสียง
ทั้งนี้ เพราะที่ผ่านมาก็มีหลายพื้นที่ที่ใกล้หมดวาระทางการเมืองท้องถิ่นแล้ว ก็มาขอถุงยังชีพจากพระสงฆ์ไปเป็นเครื่องมือหาเสียงสุดท้ายฝ่ายตรงข้ามก็มาด่าพระสงฆ์ที่ทำด้วยใจบริสุทธิ์แต่ต้องตกไปเป็นเครื่องมือของนักการเมืองเจ้าเล่ห์บางคนที่ใช้วิกฤตความเดือดร้อนของชาวบ้านมาเป็นเครื่องมือหาเสียง หาคะแนน โดยไม่กลัวบาปกลัวกรรม ดังนั้นจึงขอร้องอย่าใช้พฤติกรรมดังกล่าวมาหลอกพระสงฆ์ มันเป็นบาปแก่ตัวเอง
อย่างไรก็ตาม เหล่าคณะสงฆ์จากจังหวัดภาคเหนือที่นำโดยเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ อีกทั้งเจ้าคณะอำเภอต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน เพชรบูรณ์ ได้ร่วมกันออกบอกบุญไปยังญาติโยม จากนั้นก็ออกรับบิณฑบาตและได้เป็นข้าวสารอาหารแห้ง ยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม เป็นจำนวนมากกว่า 20 คันรถบรรทุกสิบล้อ และได้นำมารวบรวมมอบให้พระครูวชิรพุทธานุกูล (พระมหาวิรัช) รองเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ที่วัดท่าหลวง พระอารามหลวง เพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการนำสิ่งของเหล่านี้ไปแจกจ่ายให้แก่ญาติธรรมที่ประสบภัยน้ำท่วมดังกล่าว
สำหรับสิ่งของจากกระถังสังฆทานที่ได้รับบริจาคมานั้นได้นำไปรวบรวมไว้ที่อู่อำไพการช่าง ซึ่งก็ได้อาสาสมัครจากหลายหน่วยงานที่มีจิตสาธารณะไปร่วมกันคัดแยกสิ่งของและจัดเป็นหมวดหมู่บรรจุใส่ถุงได้แล้วกว่า 2 พันชุด ซึ่งจะได้ทยอยนำไปมอบให้ทั้งพระสงฆ์และประชาชนที่ประสบอุทกภัย นอกจากนี้ นายสัลเลข คำใจ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิจิตร ก็ยังได้นำสิ่งของของหน่วยงานราชการไปร่วมสมทบในถุงยังชีพร่วมกับคณะสงฆ์ดังกล่าวอีกด้วย
