จันทบุรี - ชาวเขมร-เวียดนามทะลักแห่ซื้อเสื้อหนาว ตลาดชายแดนจันท์ จำนวนมาก หวั่นอุทกภัยร้ายแรงทำอากาศในประเทศหนาวเย็น ในรอบ 31 ปี ขณะที่แม่ค้าชายแดน มีรายได้ในการจำหน่ายเสื้อกันหนาว รายละไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นบาท
วันนี้ (20 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ตลาดบ้านแหลม ม.4 ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี แม้จะมีพื้นที่ตลาดการค้าเป็นรองกว่าด้านตลาดโรงเกลือ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว แต่บรรยากาศในช่วงของต้นฤดูหนาวกลับเริ่มสร้างความคึกคัก มีชาวกัมพูชาและเวียดนามเดินทางข้ามฝั่งมาเลือกซื้อเครื่องกันหนาว สร้างรายได้ให้แก่พ่อค้า-แม่ค้าชาวไทยและกัมพูชาเป็นกอบเป็นกำ
สำหรับเสื้อกันหนาวทั้งเก่าและใหม่ เมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมาแทบจะขายไม่ได้เนื่องจากอากาศไม่เย็นมากนัก ประกอบกับชาวกัมพูชาเชื่อว่าปัญหาอุทกภัยร้ายแรงในฝั่งไทยจะเป็นสัญญาณบอกเหตุว่าปีนี้อากาศหนาวจะทวีความรุนแรง
ด้าน นางเงาะ เตรียม หนึ่งในแม่ค้าที่เปิดขายเสื้อผ้าและเครื่องกันหนาว ที่ตลาดการค้าแห่งนี้มานานกว่า 10 ปี เปิดเผยว่า เสื้อกันหนาวรุ่นเก่าได้ขายหมดลงไป เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ทำให้บรรดาแม่ค้าต้องสั่งเสื้อกันหนาวรุ่นใหม่เข้ามาทดแทน อีกทั้งหมวกคลุมศีรษะ ถุงมือ ถุงเท้า หรือแม้แต่ผ้าห่มนวม เพื่อคอยบริการลูกค้าชาวกัมพูชาและชาวเวียดนาม
ตั้งแต่เริ่มสัปดาห์นี้มีรายได้จากการขายเครื่องกันหนาว โดยเฉพาะเสื้อกันหนาวสูงสุดถึงวันละ 7 หมื่นบาท ต่างจากช่วงต้นหนาวแรกของปีที่ผ่านมา ขายได้สูงสุดเฉลี่ยเพียงวันละ 3 หมื่นบาทเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะขายดีในวันจันทร์กับวันพฤหัสฯ เนื่องจากจะมีเสื้อผ้ารุ่นใหม่เข้ามา
ส่วนสาเหตุที่หนาวแรกของปีนี้เครื่องกันหนาวขายดี เป็นเพราะชาวกัมพูชาตลอดจนเวียดนาม มีการติดตามการพยากรณ์อากาศของประเทศไทยอยู่ตลอด และพบว่า ประเทศไทยกำลังประสบภัยน้ำท่วมอย่างรุนแรง ซึ่งถือเป็นสัญญาณบอกเหตุว่าธรรมชาติมีการเปลี่ยนแปลง และจะทำให้ประเทศใกล้เคียงเป็นปีที่หนาวจัดในรอบ 31 ปี โดยเฉพาะประเทศกัมพูชา
วันนี้ (20 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ตลาดบ้านแหลม ม.4 ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี แม้จะมีพื้นที่ตลาดการค้าเป็นรองกว่าด้านตลาดโรงเกลือ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว แต่บรรยากาศในช่วงของต้นฤดูหนาวกลับเริ่มสร้างความคึกคัก มีชาวกัมพูชาและเวียดนามเดินทางข้ามฝั่งมาเลือกซื้อเครื่องกันหนาว สร้างรายได้ให้แก่พ่อค้า-แม่ค้าชาวไทยและกัมพูชาเป็นกอบเป็นกำ
สำหรับเสื้อกันหนาวทั้งเก่าและใหม่ เมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมาแทบจะขายไม่ได้เนื่องจากอากาศไม่เย็นมากนัก ประกอบกับชาวกัมพูชาเชื่อว่าปัญหาอุทกภัยร้ายแรงในฝั่งไทยจะเป็นสัญญาณบอกเหตุว่าปีนี้อากาศหนาวจะทวีความรุนแรง
ด้าน นางเงาะ เตรียม หนึ่งในแม่ค้าที่เปิดขายเสื้อผ้าและเครื่องกันหนาว ที่ตลาดการค้าแห่งนี้มานานกว่า 10 ปี เปิดเผยว่า เสื้อกันหนาวรุ่นเก่าได้ขายหมดลงไป เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ทำให้บรรดาแม่ค้าต้องสั่งเสื้อกันหนาวรุ่นใหม่เข้ามาทดแทน อีกทั้งหมวกคลุมศีรษะ ถุงมือ ถุงเท้า หรือแม้แต่ผ้าห่มนวม เพื่อคอยบริการลูกค้าชาวกัมพูชาและชาวเวียดนาม
ตั้งแต่เริ่มสัปดาห์นี้มีรายได้จากการขายเครื่องกันหนาว โดยเฉพาะเสื้อกันหนาวสูงสุดถึงวันละ 7 หมื่นบาท ต่างจากช่วงต้นหนาวแรกของปีที่ผ่านมา ขายได้สูงสุดเฉลี่ยเพียงวันละ 3 หมื่นบาทเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะขายดีในวันจันทร์กับวันพฤหัสฯ เนื่องจากจะมีเสื้อผ้ารุ่นใหม่เข้ามา
ส่วนสาเหตุที่หนาวแรกของปีนี้เครื่องกันหนาวขายดี เป็นเพราะชาวกัมพูชาตลอดจนเวียดนาม มีการติดตามการพยากรณ์อากาศของประเทศไทยอยู่ตลอด และพบว่า ประเทศไทยกำลังประสบภัยน้ำท่วมอย่างรุนแรง ซึ่งถือเป็นสัญญาณบอกเหตุว่าธรรมชาติมีการเปลี่ยนแปลง และจะทำให้ประเทศใกล้เคียงเป็นปีที่หนาวจัดในรอบ 31 ปี โดยเฉพาะประเทศกัมพูชา
