มหาสารคาม-สถานการณ์น้ำในแม่น้ำชี ยังคงอยู่ในระดับวิกฤต ล่าสุดจากปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง และการระบายน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ ส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำชีที่ไหลผ่านจังหวัดมหาสารคาม ยังคงวิกฤต เนื่องจากฝนตกหนักสะสมในพื้นที่ตลอดช่วง 3 วันที่ผ่านมา และเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ยังคงระบายน้ำอออกอย่างต่อเนื่องวันละ 53 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อพร่องน้ำในเขื่อนในอยู่ในระดับปกติ ส่งผลให้ระดับน้ำในลำน้ำชียังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดระดับน้ำวัดที่ฝายมหาสารคาม บ้านคุยเชือก อำเภอโกสุมพิสัย ระดับน้ำสูงกว่าระดับวิกฤต 3.51 เมตร มีปริมาณน้ำไหลผ่านวัดได้ 1,635 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือประมาณ 141.26 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
ขณะที่ปริมาณน้ำที่ระบายออกท้ายฝายวังยาง อำเภอเมืองมหาสารคาม วัดได้ 1,663.36 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือประมาณ 143.71 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
โดยพื้นที่ 4 อำเภอติดริมฝั่งแม่น้ำชี คือ อ.เชียงยืน โกสุมพิสัย กันทรวิชัย และอำเภอเมืองมหาสารคาม ยังคงต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากปริมาณน้ำสูงกว่าปี 53 แล้วกว่า 30 เซนติเมตร
สำหรับจังหวัดมหาสารคาม ได้ประกาศเขตภัยพิบัติน้ำท่วมจำนวน 12 อำเภอ จากพื้นที่ทั้งจังหวัด 13 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองมหาสารคาม กันทรวิชัย โกสุมพิสัย เชียงยืน ชื่นชม นาดูน พยัคฆภูมิพิสัย บรบือ นาเชือก กุดรัง แกดำ และอำเภอวาปีปทุม รวม 113 ตำบล 1,348 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อนกว่า 200,000 คน และพื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 180,000 ไร่
นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำชีที่ไหลผ่านจังหวัดมหาสารคาม ยังคงวิกฤต เนื่องจากฝนตกหนักสะสมในพื้นที่ตลอดช่วง 3 วันที่ผ่านมา และเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ยังคงระบายน้ำอออกอย่างต่อเนื่องวันละ 53 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อพร่องน้ำในเขื่อนในอยู่ในระดับปกติ ส่งผลให้ระดับน้ำในลำน้ำชียังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดระดับน้ำวัดที่ฝายมหาสารคาม บ้านคุยเชือก อำเภอโกสุมพิสัย ระดับน้ำสูงกว่าระดับวิกฤต 3.51 เมตร มีปริมาณน้ำไหลผ่านวัดได้ 1,635 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือประมาณ 141.26 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
ขณะที่ปริมาณน้ำที่ระบายออกท้ายฝายวังยาง อำเภอเมืองมหาสารคาม วัดได้ 1,663.36 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือประมาณ 143.71 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
โดยพื้นที่ 4 อำเภอติดริมฝั่งแม่น้ำชี คือ อ.เชียงยืน โกสุมพิสัย กันทรวิชัย และอำเภอเมืองมหาสารคาม ยังคงต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากปริมาณน้ำสูงกว่าปี 53 แล้วกว่า 30 เซนติเมตร
สำหรับจังหวัดมหาสารคาม ได้ประกาศเขตภัยพิบัติน้ำท่วมจำนวน 12 อำเภอ จากพื้นที่ทั้งจังหวัด 13 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองมหาสารคาม กันทรวิชัย โกสุมพิสัย เชียงยืน ชื่นชม นาดูน พยัคฆภูมิพิสัย บรบือ นาเชือก กุดรัง แกดำ และอำเภอวาปีปทุม รวม 113 ตำบล 1,348 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อนกว่า 200,000 คน และพื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 180,000 ไร่