กาญจนบุรี - ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี สั่งเฝ้าระวังปัญหาน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลาก เพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายของประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง
เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (14 ต.ค.54) นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า แนวทางในการป้องกันปัญหาน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ดังนั้น จังหวัดกาญจนบุรี จึงได้มีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอดเวลา เช่น ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และฝ่ายปกครอง ตำรวจ ซึ่งได้มีการจัดตั้ง war room ศูนย์เตรียมพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยได้เปิดศูนย์รับเรื่องจังหวัด ศูนย์รับเรื่องของแต่ละอำเภอ และเน้นตั้งศูนย์ของแต่ละท้องถิ่นขึ้นให้ครอบคลุมพื้นที่ เพื่อที่ให้สอดรับประสานการทำงานร่วมกัน
ทั้งนี้ จังหวัดกาญจนบุรี มีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังทั้งหมด 166 หมู่บ้าน ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ที่เคยเสียหายมาแล้วในอดีต เราปรับเป็นพื้นที่เผ้าระวัง พื้นที่เสี่ยงจำนวน 9 อำเภอ 31 ตำบล 166 หมู่บ้าน จะเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยจากน้ำท่วม 31 หมู่บ้าน พื้นที่เสี่ยงจากภัยน้ำป่าไหลหลาก 53 หมู่บ้าน พื้นที่เสี่ยงภัยจากดินถล่ม 32 หมู่บ้าน ในเรื่องของพื้นที่ดินโคลนถล่มโดยเฉพาะที่อำเภอทองผาภูมิ อำเภอศรีสวัสดิ์และอำเภอสังขละบุรีบางส่วน เราก็ได้เตรียมการในพื้นที่เหล่านี้และได้ซักซ้อมแต่ละหมู่บ้านทั้งหมด ให้มีความพร้อมเตรียมการและการที่จะแจ้งเหตุฉุกเฉิน ถ้าหากมีดินโคลนถล่ม และทางจังหวัดก็จะได้วางหน่วยที่มีเครื่องจักรกลในแต่ละพื้นที่ พอได้รับแจ้งก็จะได้เข้าไปช่วยเหลือทันที
ส่วนในเรื่องน้ำในพื้นที่ปริมาณการเก็บกักน้ำของ 2 เขื่อนใหญ่ คือเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ ปัจจุบันระดับน้ำเฉลี่ยประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์ ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีกหลายล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยเหนือเขื่อนขึ้นไปจึงไม่น่าเป็นห่วง ส่วนผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณใต้เขื่อนลงมา หากมีปริมาณฝนตกบริเวณใต้เขื่อนประชาชนอาจได้รับผลกระทบบ้างแต่ไม่มากนัก
ในส่วนของ อ.ด่านมะขามเตี้ย โดยเฉพาะ ต.หนองไผ่ ซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี จังหวัดได้ประชุมหารือแนวทางในการป้องกันโดยเฉพาะหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ลุ่มน้ำท่าจีน และเจ้าหน้าที่ชลประทานอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เราได้จัดทำแผนก่อสร้างโครงการแก้มลิง และขุดลอกแม่น้ำลำภาชีขึ้น หากโครงการดังกล่าวสำเร็จ จะสามารถกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้งได้ หากปริมาณน้ำมีมากจนเกิดเอ่อล้นจากโครงการแก้มลิง มวลน้ำก็จะไหลลงลำภาชี สู่แม่น้ำแควน้อย ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดน้ำท่วมขังเป็นเวลานานๆนั้นหมดไป
ในส่วนของเส้นทางระหว่างอำเภอด่านมะขามเตี้ยเชื่อมต่อไปยังอำเภอสวนผึ้งจังหวัดราชบุรีนั้น ซึ่งมักถูกกระแสน้ำกัดเซาะขาดเป็นช่วงๆ ขณะนี้แขวงการทางก็ได้เตรียมกระสอบทรายเอาไว้เป็นจำนวนมาก หากมีปริมาณน้ำไหลหลากก็สามารถดำเนินการวางกระสอบทรายป้องกันได้อย่างทันท่วงที ประชาชนที่สัญจรไปมาก็จะไม่เดือดร้อนอีกต่อไป แต่เพื่อความไม่ประมาทจังหวัดได้เตรียมความพร้อมโดยเตรียมถุงยังชีพ เช่นข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่ม และยารักษาโรคเอาไว้อย่างเพียงพอ
นายณฐพลษ์ กล่าวต่อว่า จังหวัดกาญจนบุรี เป็นที่ตั้งของกองพลทหารราบที่ 9 และจังหวัดทหารบกจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีความพร้อมด้านกำลังพลและเครื่องจักรกลหนัก รวมทั้งเป็นที่ตั้งของ ตชด.ที่ 13 มีภาคธุรกิจเอกชน เช่น โรงงานน้ำตาล หรือโรงงานอุตสาหกรรม ต่างๆ มากมาย ทั้งหมดได้ร่วมกับมูลนิธิ มิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ และยังมีมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ที่มีความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือหากเกิดน้ำท่วมขึ้นในพื้นที่
นอกจากนี้ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนชาวกาญจนบุรีได้ร่วมกันบริจาคสิ่งของเป็นจำนวนมากเพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่างๆของแต่ละจังหวัดที่กำลังประสบปัญหาอุทกภัยน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ โดยการบริจาคสิ่งของ จังหวัดกาญจนบุรีจะร่วมมือกันอย่างเต็มที่ จนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมในต่างจังหวัดจะเข้าสู่สภาวะปกติ
เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (14 ต.ค.54) นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า แนวทางในการป้องกันปัญหาน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ดังนั้น จังหวัดกาญจนบุรี จึงได้มีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอดเวลา เช่น ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และฝ่ายปกครอง ตำรวจ ซึ่งได้มีการจัดตั้ง war room ศูนย์เตรียมพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยได้เปิดศูนย์รับเรื่องจังหวัด ศูนย์รับเรื่องของแต่ละอำเภอ และเน้นตั้งศูนย์ของแต่ละท้องถิ่นขึ้นให้ครอบคลุมพื้นที่ เพื่อที่ให้สอดรับประสานการทำงานร่วมกัน
ทั้งนี้ จังหวัดกาญจนบุรี มีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังทั้งหมด 166 หมู่บ้าน ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ที่เคยเสียหายมาแล้วในอดีต เราปรับเป็นพื้นที่เผ้าระวัง พื้นที่เสี่ยงจำนวน 9 อำเภอ 31 ตำบล 166 หมู่บ้าน จะเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยจากน้ำท่วม 31 หมู่บ้าน พื้นที่เสี่ยงจากภัยน้ำป่าไหลหลาก 53 หมู่บ้าน พื้นที่เสี่ยงภัยจากดินถล่ม 32 หมู่บ้าน ในเรื่องของพื้นที่ดินโคลนถล่มโดยเฉพาะที่อำเภอทองผาภูมิ อำเภอศรีสวัสดิ์และอำเภอสังขละบุรีบางส่วน เราก็ได้เตรียมการในพื้นที่เหล่านี้และได้ซักซ้อมแต่ละหมู่บ้านทั้งหมด ให้มีความพร้อมเตรียมการและการที่จะแจ้งเหตุฉุกเฉิน ถ้าหากมีดินโคลนถล่ม และทางจังหวัดก็จะได้วางหน่วยที่มีเครื่องจักรกลในแต่ละพื้นที่ พอได้รับแจ้งก็จะได้เข้าไปช่วยเหลือทันที
ส่วนในเรื่องน้ำในพื้นที่ปริมาณการเก็บกักน้ำของ 2 เขื่อนใหญ่ คือเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ ปัจจุบันระดับน้ำเฉลี่ยประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์ ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีกหลายล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยเหนือเขื่อนขึ้นไปจึงไม่น่าเป็นห่วง ส่วนผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณใต้เขื่อนลงมา หากมีปริมาณฝนตกบริเวณใต้เขื่อนประชาชนอาจได้รับผลกระทบบ้างแต่ไม่มากนัก
ในส่วนของ อ.ด่านมะขามเตี้ย โดยเฉพาะ ต.หนองไผ่ ซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี จังหวัดได้ประชุมหารือแนวทางในการป้องกันโดยเฉพาะหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ลุ่มน้ำท่าจีน และเจ้าหน้าที่ชลประทานอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เราได้จัดทำแผนก่อสร้างโครงการแก้มลิง และขุดลอกแม่น้ำลำภาชีขึ้น หากโครงการดังกล่าวสำเร็จ จะสามารถกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้งได้ หากปริมาณน้ำมีมากจนเกิดเอ่อล้นจากโครงการแก้มลิง มวลน้ำก็จะไหลลงลำภาชี สู่แม่น้ำแควน้อย ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดน้ำท่วมขังเป็นเวลานานๆนั้นหมดไป
ในส่วนของเส้นทางระหว่างอำเภอด่านมะขามเตี้ยเชื่อมต่อไปยังอำเภอสวนผึ้งจังหวัดราชบุรีนั้น ซึ่งมักถูกกระแสน้ำกัดเซาะขาดเป็นช่วงๆ ขณะนี้แขวงการทางก็ได้เตรียมกระสอบทรายเอาไว้เป็นจำนวนมาก หากมีปริมาณน้ำไหลหลากก็สามารถดำเนินการวางกระสอบทรายป้องกันได้อย่างทันท่วงที ประชาชนที่สัญจรไปมาก็จะไม่เดือดร้อนอีกต่อไป แต่เพื่อความไม่ประมาทจังหวัดได้เตรียมความพร้อมโดยเตรียมถุงยังชีพ เช่นข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่ม และยารักษาโรคเอาไว้อย่างเพียงพอ
นายณฐพลษ์ กล่าวต่อว่า จังหวัดกาญจนบุรี เป็นที่ตั้งของกองพลทหารราบที่ 9 และจังหวัดทหารบกจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีความพร้อมด้านกำลังพลและเครื่องจักรกลหนัก รวมทั้งเป็นที่ตั้งของ ตชด.ที่ 13 มีภาคธุรกิจเอกชน เช่น โรงงานน้ำตาล หรือโรงงานอุตสาหกรรม ต่างๆ มากมาย ทั้งหมดได้ร่วมกับมูลนิธิ มิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ และยังมีมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ที่มีความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือหากเกิดน้ำท่วมขึ้นในพื้นที่
นอกจากนี้ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนชาวกาญจนบุรีได้ร่วมกันบริจาคสิ่งของเป็นจำนวนมากเพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่างๆของแต่ละจังหวัดที่กำลังประสบปัญหาอุทกภัยน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ โดยการบริจาคสิ่งของ จังหวัดกาญจนบุรีจะร่วมมือกันอย่างเต็มที่ จนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมในต่างจังหวัดจะเข้าสู่สภาวะปกติ