ศูนย์ข่าวศรีราชา - รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด (ฉก.นย.ตราด) พร้อมกำลังทหารนาวิกโยธิน และอาสาสมัครเมืองตราด เข้าตรวจยึดไม้พะยูง 59 ท่อนที่ถูกนำมาซ่อนในสวนเงาะก่อนนำออกขายต่างประเทศทางทะเล
เมื่อเวลา 23.00 น.ของวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา น.อ.จิโรจน์ สุขอร่าม รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด (ฉก.นย.ตราด) พร้อมกำลังทหารนาวิกโยธินจำนวน 30 นาย ได้ร่วมกับอาสาสมัครเมืองตราด ที่นำโดยนายไพรัช สร้อยแสง ปลัดอำเภอเมืองตราด เข้าตรวจค้นสวนเงาะของ น.ส.รัตนคิรี นาคศิริ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 1 ตำบลอ่าวใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดตราด หลังจากสืบทราบมาว่าบ้านหลังนี้มีไม้พะยูงเก็บซ่อนเพื่อรอการส่งออกขายต่างประเทศทางเรือ
เมื่อเข้าตรวจค้นพบไม้พะยูงจำนวน 59 ท่อน ขนาดความยาวประมาณ 2 เมตร อยู่ในสวนเงาะจึงทำการอายัดไว้ แต่ระหว่างการอายัดกลับมีชายผู้หนึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงตนเป็นเจ้าของ พร้อมแสดงหลักฐานว่าได้ซื้อไม้พะยูงมาจากตำบลท่าพริก ตำบลเนินทราย และตำบลห้วยแร้ง อย่างไรก็ตาม น.อ.จิโรจน์ สุขอร่าม ได้อายัดไม้พะยูงทั้งหมดไว้ก่อนและขอให้นำหลักฐานมาแสดงภายหลัง
จากนั้นได้ขนไม้พะยูงทั้งหมดมอบให้กับ พ.ต.ท.ชูเกียรติ ชูแก้ว สวญ.สภ.อ่าวช่อ และ พ.ต.ท.กิตติโรจน์ เรืองรอง พนักงานสอบสวนเพื่อบันทึกการจับกุม พร้อมเชิญหน่วยรักษาป่าไม้ห้วยแร้งที่ 1 มาตรวจวัดไม้เพื่อบันทึกจับกุมต่อไป
โดย น.อ.จิโรจน์กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่ตำบลห้วยแร้ง และในอำเภอบ่อไร่ ตามแนวเขาบรรทัดมากขึ้นโดยจะลำเลียงขนออกสู่ทะเลที่อ่าวใหญ่หลายครั้งและใช้บ้านหลังดังกล่าวเป็นที่พักไม้ไว้ ทั้งนี้ ทหารนาวิกโยธินจะป้องกันพื้นที่ไม้พะยูงในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งปัจจุบันมีการลักลอบมากขึ้นอย่างเต็มความสามารถ
เมื่อเวลา 23.00 น.ของวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา น.อ.จิโรจน์ สุขอร่าม รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด (ฉก.นย.ตราด) พร้อมกำลังทหารนาวิกโยธินจำนวน 30 นาย ได้ร่วมกับอาสาสมัครเมืองตราด ที่นำโดยนายไพรัช สร้อยแสง ปลัดอำเภอเมืองตราด เข้าตรวจค้นสวนเงาะของ น.ส.รัตนคิรี นาคศิริ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 1 ตำบลอ่าวใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดตราด หลังจากสืบทราบมาว่าบ้านหลังนี้มีไม้พะยูงเก็บซ่อนเพื่อรอการส่งออกขายต่างประเทศทางเรือ
เมื่อเข้าตรวจค้นพบไม้พะยูงจำนวน 59 ท่อน ขนาดความยาวประมาณ 2 เมตร อยู่ในสวนเงาะจึงทำการอายัดไว้ แต่ระหว่างการอายัดกลับมีชายผู้หนึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงตนเป็นเจ้าของ พร้อมแสดงหลักฐานว่าได้ซื้อไม้พะยูงมาจากตำบลท่าพริก ตำบลเนินทราย และตำบลห้วยแร้ง อย่างไรก็ตาม น.อ.จิโรจน์ สุขอร่าม ได้อายัดไม้พะยูงทั้งหมดไว้ก่อนและขอให้นำหลักฐานมาแสดงภายหลัง
จากนั้นได้ขนไม้พะยูงทั้งหมดมอบให้กับ พ.ต.ท.ชูเกียรติ ชูแก้ว สวญ.สภ.อ่าวช่อ และ พ.ต.ท.กิตติโรจน์ เรืองรอง พนักงานสอบสวนเพื่อบันทึกการจับกุม พร้อมเชิญหน่วยรักษาป่าไม้ห้วยแร้งที่ 1 มาตรวจวัดไม้เพื่อบันทึกจับกุมต่อไป
โดย น.อ.จิโรจน์กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่ตำบลห้วยแร้ง และในอำเภอบ่อไร่ ตามแนวเขาบรรทัดมากขึ้นโดยจะลำเลียงขนออกสู่ทะเลที่อ่าวใหญ่หลายครั้งและใช้บ้านหลังดังกล่าวเป็นที่พักไม้ไว้ ทั้งนี้ ทหารนาวิกโยธินจะป้องกันพื้นที่ไม้พะยูงในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งปัจจุบันมีการลักลอบมากขึ้นอย่างเต็มความสามารถ
