สุโขทัย - มหกรรมการโกงเงินชดเชยน้ำท่วมโผล่สุโขทัย แฉผู้นำท้องถิ่น-จนท.รัฐ รวมหัวชาวบ้านบางส่วนแจ้งเท็จนาข้าวจมบาดาลกันมากกว่า 6 พันไร่ ได้เงินกินเปล่าเข้ากระเป๋ากันเปรมรวม 13 ล้าน บอกทำกันมา 3 ปีซ้อน ได้กันรายละนับแสน ขณะที่ชาวบ้านบางพื้นที่ จมน้ำเกือบครึ่งปี หลายคนแห่จับปลาบนถนนแก้เครียด
รายงานข่าวจากจังหวัดสุโขทัย แจ้งว่า วันนี้ (13 ต.ค.) แม้สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของสุโขทัยเริ่มคลี่คลายแล้ว แต่ทว่าชาวบ้านจำนวนมากในพื้นที่หมู่ 12 ต.บ้านกล้วย รวมทั้งที่บ้านลัดทรายมูล และบ้านวังกุ้ง หมู่ 6 ต.ปากพระ อ.เมืองสุโขทัย ยังคงได้รับความเดือดร้อนต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 บ้านเรือนถูกน้ำท่วมขังสูง 1-3 เมตร
ส่วนถนนสายสุโขทัย-บางระกำ บริเวณบ้านลัดทรายมูล ต.ปากพระ ระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตร ยังคงมีน้ำท่วมไหลผ่านผิวจราจร รถเล็กสัญจรได้ลำบาก ต้องใช้ความระมัดระวัง
อย่างไรก็ตาม จากน้ำที่ท่วมขังบนถนนดังกล่าว ได้มีปลาสร้อย และปลาตะเพียน จำนวนนับพันๆ ตัว กระโดดว่ายทวนน้ำข้ามถนน ทำให้มีชาวบ้านจำนวนมาก พากันออกมาจับปลาไปกิน และขายได้เงิน 100-300 บาทต่อคนต่อวัน รวมทั้งยังเป็นการคลายความเครียดของชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมอีกด้วย
ขณะที่ชาวบ้าน ต.ปากพระ ได้เรียกร้องให้ทาง อบต.ปากพระ หรือหน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งเข้ามาซ่อมแซมคันดินริมแม่น้ำยม ตรงบริเวณหมู่ 6 บ้านวังกุ้ง ซึ่งถูกกระแสน้ำกัดเซาะ จนพังเป็นทางยาวเกือบ 100 เมตร เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำทะลัก เข้ามาท่วมหมู่บ้านซ้ำอีก
ด้านท้องที่ อ.กงไกรลาศ ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ว่า พวกเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม รวมทั้งมีการโกงเงินช่วยน้ำท่วมนาข้าว เป็นเงินมากกว่า 13 ล้านบาท โดยเมื่อต้นเดือนตุลาคม 54 ที่ผ่านมา ระหว่างมีการแจกของช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอ มีข้าราชการระดับสูงของอำเภอ ได้กล่าวตำหนิพฤติกรรมโกงและสาปแช่งกลุ่มผู้นำหมู่บ้านบางตำบลว่า
“ถ้าใครโกงกิน ไม่ซื่อไม่ตรง ขอให้มีอันเป็นไป” และกล่าวอีกว่า “ถ้าผู้นำขี้โกงไม่ทำ ชาวบ้านจะทำเองได้ยังไง”
ทั้งนี้ ข้าราชการระดับสูงคนดังกล่าว ระบุว่า มีการแจ้งความเสียหายเกินมากกว่า 6 พันไร่ หรือเป็นเงินกว่า 13 ล้านบาท
กลุ่มชาวนาในพื้นที่ เปิดเผยว่า บางตำบลมีการโกง และแจ้งเท็จกันทั้ง 8 หมู่บ้าน โดยผู้นำหมู่บ้าน กับผู้ช่วย และเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐระดับตำบล จะร่วมกันทำเอกสารปลอม และแจ้งเท็จ เช่น ผู้ช่วยบางคนไม่มีนาทำ แต่ได้เงินช่วยเหลือจากรัฐกว่า 1 แสนบาท, บางคนเป็น อบต.ไม่มีนา ทำก็ได้เงินเกือบ 1 แสนบาท และยังมีลูกของผู้นำหมู่บ้าน ที่ทำงานอยู่กรุงเทพฯ มีชื่อได้รับเงินกันอีกคนละ 1 แสนกว่าบาท เช่นกัน รวมทั้งมีการแจ้งเอาที่นาคนอื่นไปฝากไว้กับลูกบ้าน รายละ 50 ไร่ พอได้เงินมาก็แบ่งให้ลูกบ้าน 2-3 หมื่นบาท
นอกจากนี้ ยังมีกรรมการหมู่บ้านบางคน ที่รับผิดชอบทำเอกสาร ได้นำรายชื่อของพ่อแม่ ญาติพี่น้อง และลูกหลานตัวเอง มาใส่ชื่อได้เงินกันไปคนละ 1 แสนกว่าบาทอีกด้วย
ชาวนาผู้เสียหาย กล่าวว่า มีการโกงแบบนี้ 3 ปีติดต่อกันแล้ว จึงขอให้รัฐบาลเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่า พื้นที่ตำบลดังกล่าวมีการทำนากี่ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายเท่าไหร่ และตรวจรายชื่อผู้รับเงิน กับโฉนดที่นาใครเป็นเจ้าของ รวมทั้งตรวจสัญญาเช่าทำนา ดูเลขที่แปลงว่าอยู่ติดกับของใคร และให้สอบถามชาวบ้าน หรือชาวนาข้างเคียงว่าทำนาจริงหรือไม่
ทั้งนี้ พวกเขาบอกอีกว่า ยังมีชาวนาอีกจำนวนหนึ่ง ที่ถูกน้ำท่วมข้าวเสียหายจริง แต่ปรากฏว่าผู้นำหมู่บ้านไม่ยอมรับแจ้ง อ้างว่าเต็มแล้ว ทั้งที่ในตำบลดังกล่าว มีการบังคับชาวนาให้แจ้งความเสียหาย เพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น เช่น ถูกน้ำท่วม 100 ไร่ ก็ให้แจ้งแค่ 50 ไร่ เป็นต้น