ฉะเชิงเทรา - มาถึงแล้วมวลน้ำระบายทิ้งทะเลก้อนแรกจากอ่างเก็บน้ำแควระบมและสียัด ในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ขณะชาวบ้านเรียบชายคลองท่าลาด 3 ตำบล อ่วมหนักซ้ำซากหลัง ถูกน้ำไหลท่วมหลายระลอก
วันนี้ (12 ต.ค.) เวลา 15.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำในลำคลองท่าลาด ซึ่งเป็นเส้นทางการระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำคลองระบม และอ่างสียัด ได้เอ่อไหลล้นออกนอกลำน้ำ บ่าเข้าท่วมสู่หมู่บ้านที่อาศัยอยู่ใกล้แนวตลิ่งริมลำคลอง สูงถึงกว่า 1-2 เมตร และได้ไหลบ่าลงมาอย่างรวดเร็ว กระแสน้ำมีสภาพเชี่ยวกราดไหลแรงท่วมเข้าเต็มพื้นที่ด้วยเวลาไม่นาน พบพื้นที่เสียหายแล้วใน ต.เกาะขนุน ต.พนมสารคาม และตำบลเมืองเก่า อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
แหล่งข่าวจากสถานีตรวจวัดระดับน้ำแห่งหนึ่งในพื้นที่ เปิดเผยว่า น้ำที่ไหลบ่าเข้ามาท่วมยังพื้นที่ในครั้งนี้ ได้ถูกปล่อยระบายทิ้งออกจากอ่างเก็บน้ำสียัด ซึ่งมีขนาดความจุ 420 ล้าน ลบ.ม.เพื่อทิ้งออกสู่ทะเลถึงวันละ 15 ล้าน ลบ.ม.ผ่านลงทางแม่น้ำบางปะกงในเขต อ.บางคล้า หลังจากน้ำในอ่างมีปริมาณมากเกินกว่าความจุที่จะรองรับได้ และยังมีน้ำป่าไหลลงสู่อ่างอีกอย่างต่อเนื่อง ถึงวันละหลายล้าน ลบ.ม.จึงจำเป็นที่จะต้องเร่งระบายน้ำออกทิ้งทะเล ส่วนอ่างเก็บน้ำระบมนั้น ขณะนี้ได้ระงับการระบายออกชั่วคราว
สำหรับระดับน้ำในคลองท่าลาด ขณะนี้วัดได้สูงสุดถึง 8.5 เมตร และกำลังทวีความสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องถึงวันละ 5 ซม.จากปกติหากมีน้ำเต็มเปี่ยมลำคลองจะมีระดับน้ำอยู่ที่ 7 เมตร อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านในบริเวณดังกล่าว ได้มีการเตรียมการอพยพข้าวของ นำไปเก็บไว้ยังที่สูงก่อนล่วงหน้าแล้ว เนื่องจากได้มีการประกาศเตือนไว้ก่อนล่วงหน้า และเคยถูกน้ำไหลเข้าท่วมสู่หมู่บ้านบ่อยครั้ง เนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำ
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากมวลน้ำในพื้นที่จากทั้งสองอ่างเก็บน้ำไหลลงไปบรรจบพร้อมกันในแม่น้ำบางปะกง ผนึกมวลน้ำรวมเข้าด้วยกันระหว่างน้ำที่จะถูกระบายออกมาจากกรุงเทพมหานคร และจากกลุ่มจังหวัดในภาคกลางที่กำลังถูกน้ำท่วมหนัก ก็อาจจะทำให้น้ำ ทั้งสองก้อนที่จะมาบรรจบเข้าด้วยกันที่บริเวณรอยต่อของ อ.คลองเขื่อน และบางคล้า ซึ่งอยู่ทางตอนบนของ อ.เมืองฉะเชิงเทรา ก็อาจจะไหลบ่าเข้าท่วมสู่เขตตัวเมืองฉะเชิงเทราได้