ศูนย์ข่าวภาคเหนือ - คนนครสวรรค์เหยื่อน้ำท่วม บ่นเรือรับจ้างแพง! เข้าตัวเมืองชั้นในย่านเศรษฐกิจ เหมา 200 บาท-รายหัว 50 บาท ขาดตัว บางรายเจอเกือบพัน ภาคประชาชนตั้งศูนย์ข้อมูลริมถนนสายเอเชีย คาด น้ำท่วมนานกว่าปี 38 แน่ ทำใจต้องอยู่กับน้ำเป็นเดือน
วันนี้ (11 ต.ค.) นายอดิศักดิ์ จันทวิชานุวงษ์ ผู้ประสานงานศูนย์ประสานงานข้อมูลข่าวสารเพื่อผู้ประสบภัย จ.นครสวรรค์ เปิดเผยว่า หลังเหตุการณ์พนังกั้นน้ำต้นน้ำเจ้าพระยาพังทลาย ทำให้กลุ่มภาคประชาชนรวมตัวกันตั้งศูนย์ประสานงานที่ปั้ม ESSO ริมถนนสายเอเชีย (ตรงข้ามศูนย์ขนส่งจังหวัดนครสวรรค์) เพื่อรับข้อมูลความเดือนร้อนของคนที่ถูกน้ำท่วม
ล่าสุด วันนี้ ประชาชนคนนครสวรรค์เริ่มนิ่ง ไม่โกลาหล เริ่มทำใจกันได้แล้ว เพราะก่อนหน้านี้ ก็เตรียมการและเตรียมรับมือกันมาระดับหนึ่ง แต่บังเอิญว่า ไฟฟ้าดับเกือบทั้งเมือง ช่วงคืนวันที่ 10 ต.ค.54 มีการจ่ายไฟเฉพาะโรงพยาบาล และหน่วยราชการสำคัญๆ ทำให้ลำบากกันถ้วนหน้าเหมือนกัน ล่าสุด บ่ายวันนี้ (11 ต.ค.)การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคประกาศ แจ้งว่า จะปล่อยกระแสไฟให้ช่วงบ่าย แต่ก็เงียบไป
“คนในเมือง หากไม่สามารถใช้ไฟฟ้าได้ ถือว่า ลำบากมาก เพราะไฟฟ้าคือสิ่งจำเป็น เช่น ต้องใช้ชาร์จมือถือ, โน้ตบุ๊ก เพื่อติดต่อโลกภายนอก เมื่อทุกบ้านของชุมชนร้านค้าในเมืองมีไฟฟ้าใช้ ก็เชื่อว่า คนเมืองสามารถอยู่ในห้องแถวอาคารพาณิชย์ได้ เพราะเตรียมการอยู่กับน้ำแล้ว ยังดีที่ตัวเมืองนครสวรรค์มีพื้นที่สูง คือ รอบๆ เขากบ หน้าเทศบาลนครนครสวรรค์ ทำให้มีแผงร้านค้าเล็กๆ น้อยๆ พอทำมาหากินกันได้ชั่วคราว”
ด้าน นายณฐกร ขันดา วิศวกรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนครสวรรค์ (ร้านเจ๊นัน-ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ) กล่าวว่า ระดับน้ำท่วมที่ร้านตนอยู่ในระดับหน้าอก เหมือนกับทุกหลังคาเรือน หลายคนต้องกินนอนอยู่บนชั้น 2 ดังนั้น ทางการไฟฟ้าฯ จึงพยายามที่จะจ่ายกระแสไฟให้ได้ โดยยืนยันว่า อาคารพาณิชย์ทุกแห่ง หากยกหม้อแปลงขึ้นเหนือน้ำ การไฟฟ้าฯก็พร้อมจ่ายไฟให้คืนนี้แน่นอน
“รับรองว่า คนนครสวรรค์ได้ใช้ไฟฟ้าคืนนี้ ส่วนไฟสาธารณะซึ่งเป็นโครงเหล็กและอะลูมิเนียมได้ปลดกระแสไปออกหมดแล้ว ก็จะทำให้ตัวเมืองคืนนี้ มืดมิด ป้องกันไฟช็อต”
ด้านเจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงานข้อมูลข่าวสารเพื่อผู้ประสบภัย จ.นครสวรรค์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า มีประชาชนโทร.มาต่อเนื่อง ส่วนใหญ่ร้องขอเรือ และร้องเรียนค่าขนส่ง จากถนนใหญ่เข้าไปตัวเมืองชั้นในย่านเศรษฐกิจ ค่าโดยสารแพงมาก เหมาลำ 100-200 บาท รายหัวก็ต้องจ่ายถึง 50 บาทต่อคน แต่บางคนก็เจอค่าเรือเรือนพันก็มี ขึ้นอยู่กับระยะทาง ส่วนท้องที่ อ.โกรกพระ มีปัญหาเรื่องถุงยังชีพ แจกจ่ายไม่ทั่วถึง
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วม ล่าสุด ระดับน้ำท่วมขังในตัวเมืองย่านเศรษฐกิจคงสูงเพิ่มขึ้นอีกเฉลี่ย 70 ซม.และท่วมขังในร้านระดับ40 เซนติเมตร แต่บางพื้นที่ ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำใกล้กับอุทยานสวรรค์น้ำท่วม ระดับ 1.75 เมตร กำลังจะข้ามถนนสายเอเชีย ไปห้างบิ๊กซี แต่เจ้าหน้าที่ทหาร กำลังก่อสร้างคันดิน กั้นน้ำไม่ให้ทะลักข้ามถนน เพราะจะมีผลกระทบต่อจราจรสายเหนือทั้งหมด
ทั้งนี้ หากเทียบเหตุการณ์น้ำท่วมปี 38 พบว่า ระดับน้ำปีนี้สูงกว่า ทำให้คาดว่า จะมีน้ำท่วมนานกว่า 2 สัปดาห์-1 เดือนขึ้นไป จึงจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะปี 38 น้ำก็ท่วมขังกว่า 1 สัปดาห์กว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางเทศบาลนครสวรรค์ พยายามพร่องน้ำออกจากย่านเศรษฐกิจให้ได้ภายใน 4-5 วัน โดยใช้เครื่องสูบน้ำออก แต่ก็ไม่แน่ว่าจะทำได้หรือไม่