พระนครศรีอยุธยา - ย้ายนักโทษเมืองกรุงเก่าหนีน้ำท่วมราบรื่น ไร้เหตุจลาจล ก่อนฝากไว้ในเรือนจำปทุมธานี อ่างทอง และสิงห์บุรี เผยยังมีนักโทษตกค้างกว่า 1,000 ราย คาดสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติใน 1 สัปดาห์ จึงย้ายนักโทษกลับ ขณะที่ตัวเมืองอยุธยาประกาศให้ ปชช.รอบเกาะเมืองกรุงเก่าอพยพออกจากพื้นที่ภายในอีก 4 ชั่วโมง หวั่นกระแสน้ำแรงจะพังกำแพงกั้นน้ำลงมาอีกอาจจะทำให้น้ำท่วมสูงมากขึ้น
มีรายงานข่าวจาก จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (6 ต.ค.) ว่า ขณะนี้ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ประกาศเตือนให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่รอบเกาะเมือง ในเขตเมืองพระนครศรีอยุธยา ให้รีบอพยพสิ่งของขึ้นไปไว้ยังที่ปลอดภัย และให้อพยพประชาชนออกมาอยู่ยังที่สูง เนื่องจากเกรงว่าในอีก 4 ชั่วโมงที่จะถึงนี้น้ำอาจจะไหลทะลักเข้าท่วมสูงขึ้นอีกได้ เนื่องจากเกรงว่ากำแพงกั้นน้ำอาจจะรับกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวแรงไม่ไหวและอาจจะพังลงมาอีก
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เร่งขนย้ายผู้ต้องขังไปไว้ยังเรือนจำต่างๆ แล้ว เพราะปริมาณน้ำภายในเรือนจำมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงเกือบ 2 เมตร
ล่าสุด นายสมศักดิ์ รังสิโยภาส รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยความคืบหน้าการย้ายนักโทษในเรือนจำกลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังประสบปัญหาน้ำไหลทะลักเข้าท่วมเรือนจำสูงกว่า 1.5 - 2 เมตร ว่า เจ้าหน้าที่สามารถขนย้ายนักโทษได้แล้วจำนวน 600 ราย จากจำนวนนักโทษทั้งหมด 1,766 ราย ที่ต้องอพยพทั้งหมด โดยตลอดการทำงานนั้น ไม่มีเหตุการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้น เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างรัดกุม และได้เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจพระนครศรีอยุธยา เข้ามาช่วยอีกส่วนหนึ่ง สำหรับจุดที่ย้ายไปเป็นเรือนจำใกล้เคียง อาทิ จ.ปทุมธานี จ.อ่างทอง จ.สิงห์บุรี แต่เรือนจำอื่นๆ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องของความปลอดภัย
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ภายหลังการย้ายเรัยบร้อยแล้วเจ้าหน้าที่จากกรมราชทัณฑ์ส่วนกลางจะมีการจัดกำลังไปดูแลเพิ่มเติม ซึ่งยอมรับว่าเรือนจำบางอีกอาจแออัดมากขึ้น แต่ในยามนี้ทุกฝ่ายก็ต้องร่วมมือกัน โดยคาดว่าสถานการณ์น้ำจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติใน 1 สัปดาห์ ก็จะมีการย้ายนักโทษกลับได้
