น้ำเจ้าพระยาพังกระสอบทรายทะลักท่วมโบราณสถาน “ป้อมเพชร” เมืองกรุงเก่าแล้ว

พระนครศรีอยุธยา - น้ำเจ้าพระยามาแรง ดันกระสอบทรายจนพังทลายลงมา ส่งผลให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมโบราณสถาน"ป้อมเพชร"เมืองพระนครศรีอยุธยาแล้ว เจ้าหน้าที่เร่งระดมทำแนวกั้นน้ำเร่งด่วน หวั่นน้ำไหลเข้าตัวเกาะเมือง

เมื่อเวลา 07.15 น.วันนี้ (3 ต.ค.) น้ำเจ้าพระยา ได้เพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้น้ำเจ้าพระยาซึ่งมีความแรงดันกระสอบทรายที่เจ้าหน้าที่นำมากั้นป้องกันน้ำท่วมไว้จนพังทลายลงมาเป็นทางยาวประมาณ 6 เมตร ทำให้น้ำเจ้าพระยาไหลทะลักเข้าท่วมบริเวณโบราณสถานป้อมเพชร ของเมืองพระนครศรีอยุธยาอย่างรวดเร็ว ขณะนี้ (11.30 น.) เจ้าหน้าที่กำลังเร่งระดมทำแนวกั้นน้ำอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้ายังตัวเกาะเมือง ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้แก่โบราณสถานชุมชนและย่านธุรกิจของ จ.พระนครศรีอยุธยา อีกได้

สำหรับป้อมเพชรแห่งนี้ อยู่ตรงข้ามกับวัดพนัญเชิงวรวิหาร อยู่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ภายในเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา บริเวณนี้เป็นบริเวณที่แม่น้ำเจ้าพระยาไหลมาบรรจบกับแม่น้ำป่าสัก และเป็นวังน้ำวน ป้อมแห่งนี้เป็นป้อมใหญ่ก่อด้วยอิฐสลับกับศิลาแลง ในอดีตเป็นป้อมปราการป้องกันข้าศึก และยังเป็นประตูหน้าด่านสำหรับชาวชาวต่างชาติที่เดินทางมาสู่กรุงศรีอยุธยาปัจจุบัน บริเวณดังกล่าวก็คือตลาดน้ำวนบางกะจะ 1 ใน 4 ตลาดน้ำขนาดใหญ่รอบกรุงศรีอยุธยา

นายอรรถสิทธิ์ อินต๊ะ นายช่างโยธาชำนาญการ สำนักงานศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา เผยว่า กรมศิลปากรได้วางแนวกระสอบทรายล้อมรอบโบราณสถานเอาไว้ และจุดที่แตกนั้นเป็นจุดต่ำสุด จึงต้องวางกระสอบทรายสูงถึง 3 เมตร ปรากฏว่าตลอดเวลามีเรือสินค้าขนาดใหญ่วิ่งผ่านตลอด ทำให้ถูกคลื่นของเรือซัดกระสอบทรายล้ม ได้แบ่งคนงานเป็นสองชุดทำการกู้ด้วยการซ่อมแซมด้านหน้าเขื่อนที่พัง และอีกชุดกู้บริเวณส่วนที่น้ำทะลักเข้ามา จากนั้นจะเร่งทำการสูบน้ำออก คาดว่าจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 6-8 ชม.

ส่วนเรื่องผลกระทบนั้นตัวโบราณสถานมีความแข็งแรงอยู่แล้ว แต่ก็ต้องป้องกันเพื่อความมั่นคงของฐานล่างด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้น้ำท่วม จ.พระนครศรีอยุธยา เข้าขั้นวิกฤต โดยระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักที่ จ.พระนครศรีอยุธยา วันนี้ สูงขึ้นอีก 20 ซม.ทำให้เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขตเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ที่อยู่ริมแม่น้ำฝั่งตรงข้ามเกาะเมือง และท่วมถนนสายสถานีรถไฟอยุธยา-วัดป่าโค ต.กะมัง อ.พระนครศรีอยุธยา ระยะทางยาวกว่า 2 กม.น้ำสูงกว่าผิวการจราจรประมาณ 60-80 ซม. รถยนต์ขนาดเล็กผ่านไม่ได้ ประชาชนและเทศบาลพยายามเร่งกู้ถนนเส้นดังกล่าว โดยพยายามสร้างคันดินตลอดแนว และวางกระสอบทรายเพื่อรักษาถนนเส้นนี้ไว้

ขณะที่ประชาชนที่อยู่ในชุมชนวัดธรรมนิยม ท่าน้ำวัดประดู่ ชุมชนคลองทราย ต.หัวรอ ติดแม่น้ำป่าสัก ระดับน้ำลึกเกือบ 2 เมตร ประชาชนเตรียมขนของออกจากบ้าน เนื่องจากหนุนไม่พ้น ส่วนในเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ยังสามารถรักษาพื้นที่เอาไว้ได้ทั้งหมด แม้ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาจะมีน้ำผ่านเข้ามาทางท่อระบายน้ำที่ตลาดหัวรอ แต่ได้ใช้กำลังตำรวจระดมกำลัง 100 นายป้องกันเอาไว้ได้