กาฬสินธุ์- ชาวบ้านใน อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกับกำลังทหารจากค่ายเปรม ติณสูลานนท์ เร่งนำกระสอบทรายมาเสริมกันน้ำท่วมถนน ซึ่งเชื่อมระหว่าง อ.สหัสขันธ์ ไป อ.หนองกุงศรี อ.ท่าคันโท และ จ.อุดรธานี หลังถูกทำเขื่อนลำปาวเอ่อเข้าท่วมนานกว่า 3 สัปดาห์ ทำให้รถสัญจรผ่านไปมายากลำบาก ขณะที่เขื่อนลำปาวยังคงเร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (29 ก.ย.) ที่บริเวณเกาะมหาราช ติดกับสะพานเทพสุดา ต.หนองบัว อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ นายวีระ คำหล้า นายอำเภอหนองกุงศรี นายดนุพล ผือโย ส.อบจ.อ.หนองกุงศรี พร้อมด้วยผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กำลังทหารจากค่ายเปรม ติณสูลานนท์ จ.ขอนแก่น และชาวบ้านกว่า 300 คน ร่วมกันนำกระสอบทรายมาเสริมริมถนนระยะทางกว่า 700 เมตร เพื่อไม่ให้น้ำเอ่อเข้าท่วมถนน หลังจากถูกน้ำในเขื่อนลำปาวเอ่อเข้าท่วมขังนานกว่า 3 สัปดาห์
ส่งผลให้ประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาระหว่าง อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ไปยัง อ.หนองกุงศรี อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ และ จ.อุดรธานี เป็นไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งบางรายต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นซึ่งมีระยะทางไกลกว่า 30 กม.
ขณะที่ นายสมหมาย ดอกบัว หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว กล่าวว่า ขณะนี้เขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 2,024 ล้านลูกบาศก์เมตร จากระดับกักเก็บ 1,980 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 102% โดยเจ้าหน้าที่ยังคงระบายน้ำลงสู่แม่น้ำปาวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยระบายออก 352 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อรักษาสภาพของตัวเขื่อน และเหลือเนื้อที่ไว้รองรับน้ำที่จะไหลเข้าเขื่อน เนื่องจากอิทธิพลของพายุไห่ถางใน 1-2 วันนี้
อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงผลกระทบของประชาชนที่อยู่ลุ่มน้ำ โดยเฉพาะ อ.เมือง อ.กมลาไสย อ.ฆ้องชัย และ อ.ร่องคำ ซึ่งขณะนี้ได้รับผลกระทบมีพื้นที่การเกษตรในเขตชลประทานของเขื่อนแล้วกว่า 30,000 ไร่ และยังมีแนวโน้มที่จะถูกน้ำท่วมเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ยืนยันว่า เขื่อนลำปาวยังคงแข็งแรง และยังสามารถรองรับน้ำได้อีก