ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่อ่วม! วันเดียวเจอน้ำท่วมหนัก 3 จุด อ.แม่แตง น้ำป่าทะลัก-ดินถล่มตาย 5 จนท.ค้นพาเจอครบแล้ว ส่วนที่ อ.สันทราย น้ำป่าบวกน้ำล้นอ่างเก็บน้ำไหลท่วม 3 ตำบล พื้นที่เกษตรเสียหายกว่า 1,200 ไร่ ด้านชาวบ้านหวั่นอ่างเก็บน้ำแตก ด้านตัวเมืองเชียงใหม่โดนส่งท้ายหลังแม่น้ำปิงเพิ่มปริมาณเลยจุดวิกฤตไหลทะลักท่วมหลายพื้นที่แล้ว ผู้ว่าฯ สั่งการทุกฝ่ายพยายามรักษาพื้นที่ ศก.ให้ได้ ลุ้นคืนนี้หากระดับน้ำยังไม่หยุดเพิ่ม “กาดหลวง-ไนท์บาซาร์” โดนแน่
สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเกิดเหตุขึ้นหลายจุดในวันนี้ (28 ก.ย.) ปรากฏว่า ในพื้นที่ อ.สันทรายและอ. แม่แตง สถานกาณณ์เริ่มคลี่คลายลงแล้ว แต่ในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ แม่น้ำปิงได้เริ่มไหลทะลักข้าท่วมในพื้นที่แล้ว
ในช่วงบ่ายวันนี้แม่น้ำปิงได้เริ่มไหลเข้าท่วมในหลายพื้นที่ในเขตตัวเมืองเชียงใหม่แล้ว โดยเฉพาะที่บริเวณจุดวัดน้ำ P1 สะพานนวรัตน์ และบริเวณถนนช้างคลานบางส่วนที่มีน้ำไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว หลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีรายงานว่าระดับน้ำในแม่น้ำปิงได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำปิงที่จุดวัดน้ำ P67 แม่แต เหนือตัวเมืองเชียงใหม่ เพิ่มสูงกว่าระดับวิกฤติ ประกอบกับน้ำจากลำน้ำสาขาอื่นๆ ได้ไหลสมทบลงสู่แม่น้ำปิง ทำให้เทศบาลนครเชียงใหม่ต้องออกประกาศให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงเตรียมการรับเหตุน้ำท่วม ส่วนโรงเรียนหลายแห่งที่ตั้งอยู่ในบริเวณจุดเสี่ยงก็ได้หยุดทำการเรียนการสอนและให้นักเรียนเดินทางวงกลับบ้านตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้เดินทางเข้าตรวจสอบสถานการณ์ที่บริเวณจุดวัดน้ำ P1 สะพานนวรัตน์แล้วในช่วงบ่ายวันนี้ โดยนายคมสัน สุวรรณอัมภา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ได้รายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดว่า จากการประเมินสถานการณ์คาดว่าปริมาณน้ำปิงที่ไหลเข้าท่วมในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่จะเพิ่มขึ้นสูงสุดในช่วงเวลาประมาณ 15.00-16.00 น.และจะเริ่มลดระดับลง ในช่วงเวลาประมาณ 18.00-19.00 น.ในกรณีที่ไม่มีน้ำจากต้นน้ำไหลเข้ามาเพิ่มเติมอีก
ส่วนกรณีที่น้ำจะไหลทะลักเข้าสู่พื้นที่เศรษฐกิจอย่างไนท์บาซาร์หรือตลาดวโรรสนั้น หากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นถึงระดับ 4.70 ม. ขึ้นไปแล้ว ก็จะไหลเข้าท่วมพื้นที่สำคัญอย่างแน่นอน ซึ่งภายหลังรับฟังข้อมูลต่างๆ แล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดได้กำชับให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพยายามรักษาพื้นที่สำคัญของตัวเมืองเชียงใหม่ไม่ให้น้ำเข้าท่วมขังให้ได้มากที่สุด
ด้าน นายชาตรี เชื้อมโนชาญ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ ระบุว่า เทศบาลนครเชียงใหม่ได้ทำการเสริมแนวผนังกระสอบทรายตามที่ศูนย์อุทกวิทยาและบริหารจัดการน้ำภาคเหนือตอนบนได้ประสานให้เร่งดำเนินการตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยในขณะนี้ตั้งเป้าที่จะป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่สำคัญ 3 จุด ได้แก่บริเวณถนนสันป่าข่อย ตลาดวโรรสและไนท์บาซาร์ โดยแนวผนังกระสอบทรายสามารถป้องกันน้ำได้สูงสุดที่ 4.70 ม.
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ต.แม่แฝก และ ต.แม่แฝกใหม่ อ.สันทราย ซึ่งน้ำป่าและน้ำที่ล้นจากอ่างเก็บน้ำห้วยแก้วและอ่างเก็บน้ำแม่แฝกได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่ตั้งแต่คืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนมากกว่า 200 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมเสียหายนั้น ทาง อ.สันทรายได้เร่งระดมความช่วยเหลือต่างๆ รวมทั้งระดมกำลังทั้งเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและทหารเข้าไปในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการเร่งเปิดประตูระบายน้ำทั้งที่ฝายแม่แฝกและบริเวณคลองชลประทานเพื่อระบายน้ำในพื้นที่ลงสู่แม่น้ำกวง ซึ่งส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่ลดลงอย่างต่อเนื่องแล้ว
ขณะที่ หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสถานการณ์และเยี่ยมเยือนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
นายวิจิตร หลังสัน นายอำเภอสันทรายระบุว่า ความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้อยู่ในพื้นที่ 3 ตำบล ได้แก่ ต.แม่แฝก ต.แม่แฝกใหม่ และ ต.หนองหาร รวม 14 หมู่บ้าน 300 ครัวเรือน ขณะที่พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายประมาณ 1,200 ไร่ ทั้งนี้ ความเสียหายส่วนใหญ่เกิดจากประชาชนไม่สามารถเก็บสิ่งของต่างๆ ได้ทันเนื่องจากน้ำไหลเข้าท่วมอย่างฉับพลัน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือผู้สูญหาย มีเพียงผู้บาดเจ็บจำนวน 1 รายเนื่องจากถูกงูกัด
ส่วนกรณีที่ประชาชนวิตกว่า อ่างเก็บน้ำห้วยแก้วอาจจะแตกนั้น นายวิจิตร กล่าวว่า เป็นผลมาจากการที่น้ำได้ล้นทะลักออกจากอ่างเข้าท่วมในพื้นที่อย่างรวดเร็ว ประกอบกับอ่างดังกล่าวเป็นอ่างดิน ทำให้ประชาชนบางส่วนหวั่นเกรงว่าอ่างอาจจะแกได้ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่าอ่างเก็บน้ำยังคงอยู่ในสภาพปกติ แต่ได้สั่งการให้เฝ้าระวังตรวจสอบอย่างต่อเนื่องแล้วเพื่อความไม่ประมาท
ด้านเหตุน้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม ที่บ้านก๋ายน้อย ต.เมืองก๋าย อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย รวมทั้งมีผู้สูญหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวรวม 5 รายนั้น มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้พบศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งหมดแล้ว
โดย นายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล นายอำเภอแม่แตง ระบุว่า ผู้เสียชีวิตจำนวน 4 ราย ที่เจ้าหน้าที่ค้นพบ ประกอบด้วย นายจำรัส อินทรัตน์, นางแสงทอง อินทรัตน์, นางพัฒน์ อินทรัตน์ และ ด.ญ.มัลลิกา อินทรัตน์ เหลือเพียง นายสุนทร อินทรัตน์ สามีของนางพัฒน์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงทำการค้นหาต่อไป ซึ่งล่าสุด นายคมสัน สุวรรณอัมภา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ค้นพบศพผู้เสียชีวิตรายที่ 5 แล้ว แต่ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นนายสุนทร หรือไม่
ด้านสถานการณ์ล่าสุด ในพื้นที่นั้น นายอนุพงษ์ กล่าวว่า ระดับน้ำในพื้นที่ได้ลดลงแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งภายหลังจากเจ้าหน้าที่ได้เร่งเข้าทำการตรวจสอบสภาพความเสียหาย ซึ่งในเบื้องต้นพบว่ามีบ้านเรือนประชาชนเสียหายทั้งหลังจำนวน 4 หลัง รวมทั้งเข้าให้การช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพหมู่บ้าน อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เสาไฟฟ้าล้มพังเสียหายจำนวนมาก ทำให้ระบบไฟฟ้าและโทรศัพท์พื้นฐานในพื้นที่ยังไม่สามารถใช้การได้
หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ว่า ได้สั่งการให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูในแต่ละพื้นที่แล้ว โดยได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลในพื้นที่ที่ประสบเหตุอุทกภัยทั้ง 4 จุด คือ อ.ฝาง อ.แม่แตง อ.สันทราย และตัวเมืองเชียงใหม่ โดยแต่ละจุดจะประสานการทำงานร่วมกันจังหวัดอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ได้รายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีทราบผ่านทางระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์แล้วเมื่อช่วงเช่าที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าสถานการณ์น้ำในพื้นที่ อ.แม่แตง และ อ.สันทราย เริ่มลดระดับความรุนแรงลงแล้ว คาดว่า จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติในไม่ช้า ส่วนในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ได้กำชับให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพยายามรักษาพื้นที่สำคัญภายในตัวเมืองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ส่วนการแก้ไขปัญหาจะยึดกรอบ 2P 2R เป็นหลักในการดำเนินการ