xs
xsm
sm
md
lg

ชาวศรีสะเกษตื่นแห่ดูกระดูกประหลาด-เชื่อเป็นฟันกรามสัตว์โบราณ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชาว อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ แตกตื่นแห่ดูโครงกระดูกประหลาด ขุดพบในโรงเรียนบ้านตาดม อ.ขุขันธ์ เชื่อเป็นกระดูกฟันกรามสัตว์โบราณขนาดใหญ่ วันนี้ ( 27 ก.ย.)
ศรีสะเกษ - ชาว อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษแตกตื่นแห่ดูโครงกระดูกประหลาด ขุดพบในโรงเรียนบ้านตาดม อ.ขุขันธ์ เชื่อเป็นกระดูกฟันกรามสัตว์โบราณขนาดใหญ่ หรือ ไดโนเสาร์ เตรียมแจ้งส่วนราชการที่เกี่ยวข้องลงมาตรวจพิสูจน์ด่วน

วันนี้ (27 ก.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนบ้านตาดม อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ มีชาวบ้านแจ้งว่า ชาวบ้านตาดม ซึ่งมีเชื้อสายเป็นชาวส่วยโบราณได้ขุดพบโครงกระดูกเก่าแก่อยู่ภายในบริเวณโรงเรียน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึง พบว่า มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งกำลังพากันดูโครงกระดูกดังกล่าว ซึ่งมีลักษณะเป็นกระดูกของสัตว์โบราณ มีความแข็ง สีน้ำตาลไหม้ ทับซ้อนกันอยู่เหมือนกับฟันของสัตว์ขนาดใหญ่ และมีสภาพเก่าแก่มาก ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสัมผัสดูจะพบว่ามีผงสีขาวติดออกมา และหากสังเกตอย่างใกล้ชิดจะพบว่า วัตถุที่ขุดพบคล้ายกับเป็นฟันของสัตว์ขนาดใหญ่

ชาวบ้านบอกว่า บริเวณแห่งนี้อดีตเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ต่อมาได้แห้งขอด ขณะที่ชาวบ้านกว่า 30 คน ได้พากันมามุงดูโครงกระดูกประหลาดดังกล่าว และพากันนำดอกไม้ธูปเทียน อาหารผลไม้มากราบไหว้บูชา และขอโชคลาภเลขเด็ดกันอย่างคึกคัก

นายสว่าง วงขันธ์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 9 ต.ดองกำเม็ด อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นนักการภารโรง ของโรงเรียนบ้านตาดม เปิดเผยว่า ก่อนพบกระดูกดังกล่าว ตนได้ทำความสะอาดภายในบริเวณโรงเรียนตามปกติ จนมาถึงหน้าอาคารเก็บอุปกรณ์ของโรงเรียน ได้ขุดเจอวัตถุบางอย่างและตอนแรกคาดว่าเป็นก้อนหิน แต่เมื่อขุดขึ้นมาล้างทำความสะอาดปรากฏว่าไม่ใช่ก้อนหิน แต่วัตถุที่พบมีลักษณะเป็นกระดูกโบราณ จึงได้รายงานให้ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตาดม ทราบและนำขึ้นไปไว้บนอาคารเรียน ซึ่งชาวบ้านส่วนมากเชื่อว่า น่าจะเป็นซากกระดูกไดโนเสาร์หรือสัตว์โบราณ เนื่องจากลักษณะเหมือนกับฟันกรามของสัตว์ที่มีขนาดใหญ่มาก

ทางด้าน นายสุพร บำรุง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตาดม กล่าวว่า เนื่องจากเรื่องนี้เกิดขึ้นในบริเวณโรงเรียนดังนั้นตนจะได้รายงานให้ ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 3 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อจะได้พิจารณาดำเนินการประสานงานแจ้งให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องส่งเจ้าหน้าที่มาทำการเตรียมพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อไป






กำลังโหลดความคิดเห็น