พะเยา - ศูนย์ประชาบดี 1300 ขึ้นเหนือ เตรียมทำเว็บไซต์ “คนหาย” ลั่นได้ช่วยชาวบ้านคลายทุกข์ ย้ำทุกบ้านตีปี๊บ 1300 สายด่วนให้ข้อมูลควบคู่
น.ส.นภาภรณ์ เมฆาผ่องอำไพ นักพัฒนาสังคมระดับชำนาญการพิเศษ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และผู้อำนวยการศูนย์ประชาบดี 1300 กล่าวว่า ขณะนี้ทางกรมฯ มีแนวนโยบายจะให้ศูนย์ประชาบดีฯ เปิดเว็บไซต์รับแจ้งคนหาย เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่แจ้งเข้ามาขอรับการช่วยเหลือกรณีคนหายผ่านทางศูนย์ประชาบดีฯ เนื่องจากขณะนี้พบว่ามีเรื่องของคนหายเกิดขึ้นแทบทุกวัน สังเกตได้จากมีการแจ้งคนหายผ่านทางสื่อมวลชนหลายแขนง ดังนั้นทางศูนย์ประชาบดี 1300 จึงได้ทำเว็บไซต์เพื่อรับแจ้งเหตุคนหายขึ้น เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเรื่องคนหาย ซึ่งอาจจะเป็นคนในครอบครัว คนใกล้ตัว คนรู้จักได้มีเครือข่ายในการช่วยเหลือกว้างขวางมากขึ้น โดยเฉพาะทางออนไลน์หรือโซเชียล มิเดีย
ผอ.ศูนย์ประชาบดีกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังต้องขอความร่วมมือไปยังบ้านพักเด็กและครอบครัวทุกแห่ง ที่เป็นศูนย์ประชาบดี สายด่วน 1300 ที่จะต้องรับแจ้งเหตุทุกพื้นที่ตามจังหวัดนั้นๆ ให้ประชาสัมพันธ์องค์กร เพื่อเป็นสถานที่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เดือดร้อน หรือประสบปัญหาทางสังคมได้มากขึ้น เพราะทุกวันนี้ยังมีรายงานเข้ามาว่าบางบ้าน ยังมีเคสหรือผู้เดือดร้อนเข้ามาขอความช่วยเหลือน้อยมาก ซึ่งก็ต้องพิจารณาเรื่องการประชาสัมพันธ์องค์กรให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย เพื่อจะได้ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น
“โดยเฉพาะการรับแจ้งคนหาย ศูนย์ประชาบดีมีเครือข่ายทั่วประเทศ เมื่อมีการรับแจ้งทั้งทางโทรศัพท์ และเว็บไซต์ ทำให้ประชาชนมีช่องทางในการแจ้งและขอความช่วยเหลือได้มากขึ้น เป็นผลดีต่อการช่วยเหลือได้สะดวก” น.ส.นภาภรณ์กล่าว
น.ส.นภาภรณ์ เมฆาผ่องอำไพ นักพัฒนาสังคมระดับชำนาญการพิเศษ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และผู้อำนวยการศูนย์ประชาบดี 1300 กล่าวว่า ขณะนี้ทางกรมฯ มีแนวนโยบายจะให้ศูนย์ประชาบดีฯ เปิดเว็บไซต์รับแจ้งคนหาย เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่แจ้งเข้ามาขอรับการช่วยเหลือกรณีคนหายผ่านทางศูนย์ประชาบดีฯ เนื่องจากขณะนี้พบว่ามีเรื่องของคนหายเกิดขึ้นแทบทุกวัน สังเกตได้จากมีการแจ้งคนหายผ่านทางสื่อมวลชนหลายแขนง ดังนั้นทางศูนย์ประชาบดี 1300 จึงได้ทำเว็บไซต์เพื่อรับแจ้งเหตุคนหายขึ้น เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเรื่องคนหาย ซึ่งอาจจะเป็นคนในครอบครัว คนใกล้ตัว คนรู้จักได้มีเครือข่ายในการช่วยเหลือกว้างขวางมากขึ้น โดยเฉพาะทางออนไลน์หรือโซเชียล มิเดีย
ผอ.ศูนย์ประชาบดีกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังต้องขอความร่วมมือไปยังบ้านพักเด็กและครอบครัวทุกแห่ง ที่เป็นศูนย์ประชาบดี สายด่วน 1300 ที่จะต้องรับแจ้งเหตุทุกพื้นที่ตามจังหวัดนั้นๆ ให้ประชาสัมพันธ์องค์กร เพื่อเป็นสถานที่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เดือดร้อน หรือประสบปัญหาทางสังคมได้มากขึ้น เพราะทุกวันนี้ยังมีรายงานเข้ามาว่าบางบ้าน ยังมีเคสหรือผู้เดือดร้อนเข้ามาขอความช่วยเหลือน้อยมาก ซึ่งก็ต้องพิจารณาเรื่องการประชาสัมพันธ์องค์กรให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย เพื่อจะได้ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น
“โดยเฉพาะการรับแจ้งคนหาย ศูนย์ประชาบดีมีเครือข่ายทั่วประเทศ เมื่อมีการรับแจ้งทั้งทางโทรศัพท์ และเว็บไซต์ ทำให้ประชาชนมีช่องทางในการแจ้งและขอความช่วยเหลือได้มากขึ้น เป็นผลดีต่อการช่วยเหลือได้สะดวก” น.ส.นภาภรณ์กล่าว
