อุบลราชธานี-สถานการณ์น้ำมูลล้นตลิ่งที่ จ.อุบลราชธานี แนวโน้มรุนแรงยิ่งขึ้น เหตุปริมาณน้ำจากด้านเหนือไหลลงมาสมทบกับน้ำฝนที่ตกลงในพื้นที่ ทำให้น้ำทะลักไหลท่วมชุมชนและถนนสายหลักในตัวจังหวัด พร้อมเร่งจ่ายเงินเยียวยาครัวเรือนที่ถูกน้ำท่วมชุดแรกแล้ว
วันนี้ (23ก.ย.54)ที่ศาลาประชาคมเทศบาลเมืองวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานมอบเงินช่วยเหลือประชาชนชุดแรกที่ถูกน้ำท่วมขังเกิน 7 วัน รายละ 5,000 บาท โดยครั้งนี้ มีประชาชนในอ.วารินชำราบ ได้รับเงินเยียวยาจำนวน 476 ครอบครัว
และวันเดียวกันนายพรศักดิ์ ยังเดินทางไปมอบให้ประชาชนในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี ประชาชนในเขตเทศบาลตำบลบ้านด่าน อ.โขงเจียม , อ.ศรีเมืองใหม่ , และอ.ตระการพืชผล รวมมีประชาชนใน จ.อุบลราชธานี ได้รับเงินเยี่ยวยาจากถูกน้ำท่วมขังเกิน 7 วัน จำนวนทั้งสิ้น 1,055 ครอบครัว คิดเป็นเงิน 5,275,000 บาท โดยธนาคารออมสินจ่ายเป็นเงินสดให้แก่ผู้ประสบภัยทั้งหมด
ด้านนายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ขึ้นบินสำรวจดูปริมาณน้ำในแม่น้ำมูลที่ล้นตลิ่งไหลท่วมชุมชนสองฝั่งแม่น้ำคือ อ.วารินชำราบ และ อ.เมือง โดยพบว่าปริมาณน้ำยังสูงขึ้น และไหลท่วมชุมชนเป็นบริเวณกว้าง และบางจุดเริ่มไหลท่วมถนนสายสำคัญทั้งที่ใช้เชื่อมระหว่าง อ.เมืองไป อ.วารินชำราบ หรือจาก อ.เมืองไปยัง 3 จังหวัดอีสานตอนล่าง เพื่อใช้ข้อมูลที่เห็นนำไปให้หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัย นำไปบูรณาการแก้ปัญหาน้ำท่วมต่อไป
ปัจจุบัน จ.อุบลราชธานี มีชุมชนถูกน้ำท่วมรวม 16 อำเภอ 81 ตำบล 647 หมู่บ้าน น้ำท่วมบ้าน 3,953 หลังคาเรือน อพยพแล้ว 1,611 ครอบครัว จำนวน 5,378 คน โดยพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมบ้านมากที่สุดคือ ในเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ และเทศบาลนครอุบลราชธานี ประชาชนต้องอพยพรวม 1,104 ครอบครัว ส่วนโรงเรียนถูกน้ำท่วมต้องปิดเรียนรวม 8 โรง พื้นที่เกษตรกรรมถูกน้ำท่วมกว่า 118,000 ไร่
ส่วนระดับแม่น้ำมูลที่สะพานเสรีประชาธิปไตยวันนี้ น้ำสูง 9.16 เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 8 เซนติเมตร ทำให้มีน้ำล้นตลิ่งสูง 2.16 เมตร อัตราไหลของน้ำมีความเร็ว 4,112 ลูกบาก์ศเมตรต่อวินาที ส่วนแม่น้ำชีที่สถานีวัดน้ำฝ่ายธาตุน้อย อ.เขื่องใน ยังมีน้ำล้นตลิ่งสูง 1.74 เมตร
ขณะที่ระดับแม่น้ำมูล ซึ่งล้นตลิ่งทำให้ลำน้ำมูลน้อยที่เป็นลำน้ำสาขาในเขต อ.เมือง จ.อุบลราชธานี มีน้ำไหลท่วมถนนสรรพสิทธิ์ ตั้งแต่สะพานข้ามลำมูลน้อยไปจนถึงสามแยกบายพลาส ระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร โดยถนนดังกล่าวเป็นทางลัดเชื่อมต่อไปยัง จ.ศรีสะเกษ ยโสธร และอำนาจเจริญ
ส่วนเรือนจำกลางจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งรับหน้าที่ดูแลเส้นทางไม่ให้ถูกน้ำท่วม ได้นำนักโทษชั้นดีลำเลียงกระสอบทรายที่นักโทษในเรือนจำช่วยกันบรรจุนับหมื่นใบเสริมแนวคันถนน หลังจากระดับน้ำสูงจนล้นแนวกระสอบทรายเดิมที่ทำไว้เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแนวโน้มระดับน้ำที่ไหลท่วมถนนยังสูงขึ้น และอาจไม่สามารถหยุดยั้งกระแสความแรงของน้ำต่อไปได้