แก๊ง“เผาเมือง”แห่เข้าเขมร ผ่าน“ช่องจอม”- เชียร์เตะบอล“โจกแดง- รัฐฮุนเซน”

สุรินทร์- แก๊ง นปช.จากเหนือ- กลาง- อีสานกว่า 700 คน แห่เดินทางเข้าเขมรผ่าน“ด่านช่องจอม”สุรินทร์ ไปเชียร์บอลนัดจูบปากระหว่างทีมโจกแดงเผาเมืองไทย กับรบ.กัมพูชา ของ “ ฮุน เซน” เย็นพรุ่งนี้ (24 ก.ย.) ระบุจ่ายค่าหัวรายละ 7,000 บาท เผยจนท.ระดมกำลังก้มหัวอำนวยความสะดวกเต็มที่ ไม่กล้าตรวจละเอียดหวั่นขัดใจ แถมบ่อนเขมรขนพนักงานมาช่วยอีกแรง ชี้แกนนำแดงหวังอาศัยสัมพันธ์ “พ่อแม้ว”โกยประโยชน์ทั้งด้านธุรกิจและการเมือง


วันนี้ ( 23 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.15 น. ที่ด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ บรรดากลุ่มแกนนำและสมาชิก กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ กลุ่มคนเสื้อแดง จำนวน 750 คน จากจังหวัดต่างๆ เช่น จ.นนทบุรี ,แพร่ ,เชียงใหม่ ,ร้อยเอ็ด, อุบลราชธานี , และ จ.สุรินทร์ ทยอยเดินทางโดยรถบัสปรับอากาศ ,รถตู้ ,รถปิกอัพ มายื่นหนังสื่อเดินทาง หรือ พาสปอร์ต เพื่อขอผ่านแดนเดินทางเข้าไปยังประเทศกัมพูชา

โดยมีโดย นายคำรณ ปัญญาโรจน์ แกนนำกลุ่ม นปช.สุรินทร์ เขต อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เป็นผู้คอยเข้าประสานงานกับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิง และ เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรช่องจอม อ.กาบเชิง ในการยื่นหนังสือเดินทางเพื่อขอผ่านแดน ดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครอง อ.กาบเชิง , เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองกาบ , เจ้าหน้าที่ศุลกากร อ.กาบเชิง และ ตำรวจสภ.กาบเชิง ได้ระดมกำลังเดินทางมาคอยอำนวยความสะดวก ตรวจสอบเอกสาร หลักฐานการขอผ่านแดน แก่แกนนำและกลุ่มคนเสื้อแดง อย่างเต็มที่

นอกจากนั้นยังพบว่า มีพนักงานของบ่อนกาสิโนชายแดนกัมพูชา ฝั่งตรงข้ามด่านช่องจอม ขนาดใหญ่ทั้ง 2 แห่ง คือ กาสิโนโอร์เสม็ด รีสอร์ท และ รอยัลฮิวล์ รีสอร์ท ได้เดินทางเข้ามาคอยประสานงานอำนวยความสะดวก แก่แกนนำและกลุ่มคนเสื้ออย่างเต็มที่ด้วย เพื่อให้สามารถเดินทาง เข้าไปยัง จ.เสียมราฐ ต่อไปยังกรุงพนมเปญ ในวันเช้าวันที่ 24 ก.ย. ได้ทันเวลาเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตร ระหว่างแกนนำเสื้อแดง กับ ทีมรัฐบาลกัมพูชา ของ สมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในเย็นวันที่ 24 ก.ย.

ผู้ประสานงาน นปช. รายหนึ่งเปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แกนนำ นปช.ได้ประสานงาน กับฝ่ายกัมพูชา และเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงส์ จ.ศีรสะเกษ เพื่อขอนำคณะ นปช.เดินทางเข้าไปจ.เสียมราฐ ต่อไปยัง กรุงพนมเปญ แต่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กัมพูชา ว่า เส้นทางจากด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ - สายอัลลองเวง - จ.เสียมราฐ โดยเฉพาะจุดก่อนถึง จ.เสียมราฐประมาณ 30 กิโลเมตร นั้น น้ำท่วมหนักถนนถูกตัดขาด ไม่สามารถเดินทางผ่านเข้าไปยังจ.เสียมราฐได้ อีกทั้งยังเกิดอุบัติเหตุมีชาวต่างชาติ ขับรถยนต์ตกถนนจมน้ำเสียชีวิต 2 ราย จึงขอให้เปลี่ยนเส้นทางเข้าประเทศกัมพูชา โดยให้ใช้เส้นทางด้านด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ด เดินทาง เข้าไปยัง จ.เสียมราฐ และให้พักค้างคืนที่ตัวเมือง จ. เสียมรายราฐ 1 คืน ก่อนเดินทางต่อไปยัง กรุงพนมเปญ ในเช้าวันที่ 24 ก.ย. แทน

ผู้ประสานงาน นปช. คนเดิมกล่าวต่อว่า การเดินทางเข้าไปเขมร ในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มนักธุรกิจในเครือข่ายของกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อหวังไปเจรจาการค้ากับนักธุรกิจกัมพูชา ในกรุงพนมเปญ โดยอาศัยความสัมพันธ์ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ประสานงาน ซึ่งกลุ่มคนนักธุรกิจกลุ่มนี้ ได้รับการประสานงานและดูแลเป็นพิเศษจากกลุ่มผู้บริหารบ่อนกาสิโนชายแดนช่องจอม-โอร์เสม็ด
นอกจากนั้นเป็น นปช.ในกลุ่มก้อนสายต่างๆ ที่เดินทางไปรวมตัวกันที่ จ.นนทบุรีก่อนร่วมกันเดินทาง เข้าไปในกัมพูชา ซึ่งแต่ละกลุ่มมีจุดมุ่งหมายแต่ต่างกันทั้งผลประโยชน์ด้านการเมืองและเศรษฐกิจ โดยต้องจ่ายค่าใช้จ่ายในการเดินทางครั้งนี้ หัว ละ 7,000 บาท ซึ่งแต่ละคนต้องออกค่าใช้จ่ายเอง รวมค่าที่พักและอาหาร ไม่ระบุวันกลับ แต่พาสปอร์ตสามารถอยู่ประเทศกัมพูชาได้นานถึง 14 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิง ,เจ้าหน้าที่ศุลกากรช่องจอม และ ฝ่ายปกครองอำเภอกาบเชิง รวมทั้ง ตำรวจภูธร สภ. กาบเชิง ต่างระบุในทำนองเดียวกันว่า การอำนวยความสะดวกให้กับคนเสื้อแดงเป็นเรื่องต้องดำเนินการ เพราะขณะนี้กลุ่มคนเสื้อแดงบริหารประเทศและเป็นใหญ่ในประเทศ จึงไม่อยากตรวจสอบมาก ไม่อยากขัดใจ เกรงจะเกิดปัญหากับการปฏิบัติหน้าที่และถูกย้ายออกจากพื้นที่ ถึงแม้เจ้าหน้าที่ต้องการตรวจสอบการผ่านแดนอย่างละเอียดเพื่อความถูกต้อง แต่เกรงว่าจะเกิดความล่าช้าขัดใจกลุ่มคนเสื้อแดงทำให้ไม่พอใจได้ จึงต้องเน้นคอยอำนวยความสะดวกให้เป็นหลัก เพื่อไม่ให้ถูกเล่นงานตามมาในภายหลังได้