บุรีรัมย์ - ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ลงพื้นที่ตรวจรับทราบปัญหาฝายน้ำล้นทะลักท่วมเทศบาลแคนดง จากข้อมูลพบเป็นมวลน้ำก้อนแรกจากโคราชไหลมารวมลงฝาย สั่งเทศบาล อำเภอ ซ่อมคันดินที่ชำรุด และเสริมคันฝายให้สูงขึ้น เพื่อป้องกันน้ำก้อนใหญ่จากโคราชที่จะไหลบ่าท่วมซ้ำอีกระลอก
วันนี้ (23 ก.ย.) นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามรับทราบปัญหากรณีน้ำจากฝายน้ำล้นบ้านหนองกระทุ่ม-กาละโก ไหลทะลักเข้าท่วมถนน บ้านเรือน ร้านค้า ในเขตเทศบาลตำบลแคนดง และพืชไร่ของเกษตรกรในพื้นที่อำเภอแคนดงได้รับความเดือดร้อนกว่า 1,000 ครัวเรือน
จากข้อมูลรายงานพบว่า น้ำที่เอ่อทะลักเข้าท่วม เป็นมวลน้ำก้อนแรกที่ถูกปล่อยมาลงมาจาก อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ไหลมารวมกับน้ำในฝายน้ำล้นดังกล่าว ทำให้ปริมาณน้ำหนุนสูง และเอ่อล้นคันฝายทะลักเข้าท่วมเขตเทศบาลตำบลแคนดงอย่างฉับพลัน
จากการสำรวจเบื้องต้น พบว่า มีบ่อปลาเสียหายแล้ว 7 บ่อ รวมทั้งมีพืชไร่ สวนยาง นาข้าว ถูกน้ำท่วมขังอีกกว่า 200 ไร่ ส่วนถนน และบ้านเรือนราษฎรกำลังอยู่ระหว่างการสำรวจของทางเทศบาล และอำเภอแคนดง เพื่อเสนอรายงานจังหวัดบุรีรัมย์พิจารณาให้ความช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ของทางราชการต่อไป
ส่วนสถานการณ์ล่าสุด ขณะนี้น้ำที่ท่วมขังในเขตเทศบาลตำบลแคนดง ได้ลดลงเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว
นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทางอำเภอแคนดง และเทศบาลตำบลแคนดง เร่งซ่อมแซมคันดินที่ชำรุด และ นำกระสอบทรายไปเสริมคันฝายให้สูงขึ้น เพื่อป้องกันมวลน้ำก้อนใหญ่ที่จะไหลมาจากจังหวัดนครราชสีมาทะลักเอ่อท่วมซ้ำอีกระลอก ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนเสียหายให้กับประชาชนและเกษตรกรได้ ส่วนอำเภออื่นๆ ที่อยู่ติดริมลำน้ำมูลก็ได้สั่งให้มีการเตรียมความพร้อมรับมือภาวะน้ำท่วมอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยเช่นกัน