ศูนย์ข่าวขอนแก่น - พ่อค้า-แม่ค้าสถานีขนส่งขอนแก่น รุดพบขนส่งจังหวัดขอนแก่น ค้านย้ายรถโดยสารสายยาวไปจอดที่ บขส.แห่งใหม่ หวั่นกระทบช่องทางทำมาหากิน วอนยืดระยะเวลาออกไปอีก ด้านคนขับรถตุ๊กตุ๊ก อ้างค่าโดยสารแพงขึ้นแน่ ด้านขนส่งขอนแก่นอ้างเหตุย้าย เพื่อลดปัญหาการจราจร ทั้งรองรับศูนย์กลางคมนาคมประชาคมอาเซียน แนะผู้เดือดร้อนทำหนังสือร้องเรียนรองพ่อเมืองขอนแก่นช่วยแก้ปัญหา
วันนี้ (22 ก.ย.) กลุ่มพ่อค้า-แม่ค้า และรถรับจ้าง ที่ประกอบกิจการที่สถานีขนส่งโดยสาร (บขส.รถสีส้ม) ถ.ประชาสโมสร และสถานีขนส่งรถปรับอากาศ ถ.กลางเมืองประมาณ 50 คน เดินทางมาพบนาย กนก ศิริพานิชกร ขนส่งจังหวัดขอนแก่น ที่โรงแรมขอนแก่นโฮเต็ล จังหวัดขอนแก่น เพื่อร้องเรียนให้ระงับการย้ายรถโดยสารสายยาว ไปจอดรับ-ส่งผู้โดยสารที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งใหม่ (บขส.แห่งที่ 3) เนื่องจากจะได้รับผลกระทบกับการประกอบอาชีพ
สืบเนื่องจากกรมการขนส่งทางบก ได้ดำเนินการก่อสร้าง สถานีขนส่งผู้โดยสารจ.ขอนแก่นแห่งที่ 3 ขึ้น บริเวณทางเลี่ยงเมืองขอนแก่น เพื่อลดการจราจรในเขตเมือง แก้ปัญหารถติด โดยใช้งบประมาณก่อสร้างประมาณ 100 ล้านบาท และได้ส่งมอบให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่นบริหารจัดการ รอประกาศในราชกิจจานุเษกษา ก่อนที่จะเปิดให้บริการกับประชาชนอย่างเป็นทางการ
นางสงวน ชัยทอง แม่ค้าแผงผลไม้อายุ 59 ปี ที่บขส.ขอนแก่น ถ.ประชาสโมสร กล่าวว่า การย้ายรถสายยาว 7 สาย ไปจอดรับ-ส่งที่ บขส.แห่งที่ 3 นั้น ได้รับรู้ล่วงหน้าแล้ว แต่อยากร้องเรียนขนส่งจังหวัดขอนแก่น ให้ยืดเวลาออกไป เพราะประกอบอาชีพขายของอยู่ที่นี่มานาน 30 ปีแล้ว ทั้งลูกๆ กำลังเรียนหนังสือ ต้องใช้เงินเยอะ หากย้ายรถสายสีส้ม 7 สายออกไปข้างนอก จะทำให้ตนขาดรายได้ รวมถึงคนอื่นๆ ที่ค้าขายอยู่ในบริเวณเดียวกันด้วย
ด้าน นายสายบัว ศรีสงคราม อายุ 56 ปี ในฐานะตัวแทนคนขับรถรับจ้าง กล่าวว่า หากมีการย้าย บขส.จริง ผลกระทบจะเกิดขึ้นหลายด้าน เบื้องต้นบขส.แห่งใหม่ไม่มีชุมชน การไปรับผู้โยสาร ค่าโดยสารจะต้องแพงขึ้นอีก จากปัจจุบันที่รถตุ๊กตุ๊ก มอเตอร์ไซค์รับจ้าง เก็บจากผู้โดยสารประมาณ 40-50 บาท หากไปที่แห่งใหม่จะเพิ่มขึ้นเป็น 120-150 บาท เพราะระยะทางต่างกันมาก
แม้จะมีลูกค้าใช้บริการกลับเข้าเมือง แต่ขาไปไม่มีลูกค้าแน่นอน เพราะแถวนั้นไม่มีบ้านคนจึงไม่คุ้ม หากรถตุ๊กตุ๊ก/มอเตอร์ไซค์รับจ้างจะตามไปรับลูกค้าที่ บขส.แห่งใหม่
ขณะที่นายกนก ศิริพานิชกร ขนส่งจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การย้าย รถสายยาวไปที่ สถานีขนส่งแห่งใหม่ต้องเกิดขึ้นแน่นอน เพราะการเติบโตของเมืองขอนแก่นขยายตัวมาก การจราจรคับคั่ง ทั้งเพื่อลดมลพิษจากไอเสียเครื่องยนต์ จำเป็นต้องย้ายออกไปนอกตัวเมือง โดยขนส่งจังหวัดขอนแก่นและอบจ.ขอนแก่น ได้จัดเตรียมรถโดยสารขนาดเล็ก 8 สายเชื่อมระหว่างบขส.แห่งเก่าและแห่งใหม่ไว้รองรับ อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
“ที่สำคัญ การย้ายรถโดยสารไปจอดที่สถานีขนส่งแห่งใหม่ ยังเป็นการรองรับ การเป็นศูนย์กลางคมนาคมในประชาคมอาเซียนที่จะเกิดขึ้นในอีก 4 ปีข้างหน้า ศักยภาพของจังหวัดขอนแก่นจะเป็นจุดตัดของเส้นทางต่างๆที่สำคัญทางเศรษฐกิจของภูมิภาค ดังนั้นการเตรียมแผนด้านการจัดระบบจราจร ขนส่ง จึงต้องวางแผนไว้ล่วงหน้า” นายกนก กล่าวและว่า
นอกจากแผนย้ายรถโดยสารสายยาวไปจอดรับ-ส่งที่ บขส.แห่งที่ 3 จะเกิดขึ้นภายใน 2 เดือนข้างหน้า ล่าสุดขนส่งจังหวัดขอนแก่น ร่วมกับเทศบาลนครขอนแก่น ได้ว่าจ้างให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำการศึกษาระบบจราจรรถด่วน บีอาร์ที ไว้รองรับอีกด้วย เนื่องจากจำนวนประชากรของจังหวัดขอนแก่น รวมถึงคนที่อพยพเข้ามามีมากขึ้นทุกวัน จำเป็นต้องเตรียมการล่วงหน้า เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการจราจรเช่นที่เกิดกับเมืองใหญ่อื่นๆ
สำหรับกลุ่มรถรับจ้าง หรือพ่อค้าแม่ค้าที่ได้รับความเดือดร้อน ตนได้แนะนำให้ทำเป็นหนังสือถึงทางจังหวัด โดยนายพยัต ชาญประเสริฐรองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้รับทราบ และจะนำเรื่องเข้าพิจารณากับคณะกรรมการจราจรจังหวัด เพื่อหาทางออกให้กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบต่อไป