มหาสารคาม - รองผู้ว่าฯ มหาสารคาม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในลำน้ำชีเขตรอยต่อกับจังหวัดขอนแก่น พบมวลน้ำไหลเข้าสู่พื้นที่กว่า 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือกว่าวันละ 70 ล้านลูกบาศก์เมตร
รายงานข่าวแจ้งว่า นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งในระดับจังหวัด และอำเภอ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในลำน้ำชีเขตรอยต่อกับจังหวัดขอนแก่น และเขตลุ่มน้ำชีในเขตพื้นที่อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม พบว่าระดับน้ำในลำน้ำชียังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยวันละ 10-15 เซนติเมตร
โดยความจุของฝายคุยเชือกอยู่ที่ 35.50 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าสู่พื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ตรงจุดวัดความเร็วการไหลของน้ำบริเวณฝายอยู่ที่ 840 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือประมาณ 72 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งขณะนี้ฝายคุยเชือกได้เปิดประตูระบายน้ำทั้ง 6 บาน ระดับน้ำใกล้เอ่อล้นตลิ่ง ซึ่งสถานการณ์น้ำถือว่าน่าเป็นห่วง เนื่องจากเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น มีปริมาณน้ำเก็บกักอยู่ที่ร้อยละ 96 ของความจุอ่างแล้ว จึงต้องเร่งระบายน้ำลงสู่ลำน้ำชีและลำน้ำสาขาวันละ 26 ล้านลูกบาศก์เมตร
ขณะเดียวกัน มีปริมาณน้ำไหลเข้าสู่เขื่อนระยะนี้ไม่ต่ำกว่าวันละ 100 ล้านลูกบาศก์เมตร แนวโน้มเขื่อนอุบลรัตน์จะต้องระบายน้ำเพิ่มมากขึ้นจะส่งผลให้น้ำในลำน้ำชีเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำติดริมฝั่งแม่น้ำชีในเขตอำเภอโกสุมพิสัย โดยเฉพาะพื้นที่นาข้าวจะถูกน้ำท่วมหลายหมื่นไร่ในเขตตำบลโพนงาม หัวขวาง แก้งแก เหล่า หนองบัว ยางท่าแจ้ง และตำบลเลิงใต้
ล่าสุด พื้นที่นาข้าวในเขต อ.โกสุมพิสัยกว่า 5,000 ไร่ เริ่มได้รับผลกระทบแล้ว หน่วยงานชลประทานได้เร่งสูบน้ำเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรต่อไปแล้ว