xs
xsm
sm
md
lg

ชาวแปดริ้วโอด! กลุ่มทุนตั้งโรงไฟฟ้าเดินหน้าก่อสร้างโครงการไม่หยุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา-ชาวบ้านแปดริ้วโอด หลังกลุ่มทุนยังเดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้าไม่หยุด เมินรอฟังคำสั่งศาลปกครองชี้ขาด ส่งผลทำเส้นทางสัญจรภายในหมู่บ้านเสียหายถนนพัง

วันนี้ (21 ก.ย.) นายสมชัย ลายประดิษฐ์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/1 ม.17 ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ชาวบ้านผู้มีบ้านเรือนตั้งอยู่ติดกับโครงการก่อตั้งโรงไฟฟ้านครเนื่องเขต ขนาดกำลังการผลิต 114 เมกะวัตต์ โดยใช้พลังงานจากก๊าซ NGV ของบริษัทฉะเชิงเทรา โคเจนเนอเรชั่น จำกัด ซึ่งมีบริษัทร่วมทุนจากต่างชาติ ด้านการผลิตไฟฟ้าภาคเอกชน คือ บริษัท กัลฟ์ เจพี จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มทุนผู้ก่อตั้งโรงไฟฟ้าดังกล่าว ยังคงเร่งเข้ามาดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งนี้อย่างเร่งรีบ และไม่รอฟังผลการตัดสินจากศาลปกครอง จ.ระยอง ที่ชาวบ้านได้ไปยืนคำร้องไว้

โดยล่าสุดนั้น ชาวบ้านได้เดินทางไปยื่นข้อมูลหลักฐานถึงความเดือดร้อนต่อศาลเป็นรอบสุดท้ายแล้วเมื่อวานนี้ และคาดว่ากำลังจะมีผลการพิจารณาตัดสินออกมาในวันที่ 27 ก.ย.54 นี้ หลังจากที่ผ่านมาได้มีการยื่นพยานหลักฐาน และไตร่สวนไปแล้วพร้อมกันครบทุกฝ่าย ซึ่งประกอบด้วย ฝ่ายชาวบ้าน ฝ่ายนายทุน และฝ่ายองค์กรภาครัฐ เมื่อวันที่ 13 ก.ย.54 ที่ผ่านมา ซึ่งทางกลุ่มทุนยังอ้างระหว่างการไตร่สวนอีกว่า หากโครงการถูกล้มเลิกจะได้รับความเสียหายเป็นมูลค่าสูงถึง 5 พันล้านบาท และทางบริษัทอาจถึงขั้นล้มละลายเพื่อให้ศาลเห็นใจ

แต่ในขณะเดียวกัน ทางฝ่ายนายทุนผู้ดำเนินโครงการก็ยังคงเร่งเดินหน้าในการดำเนินการก่อสร้าง โดยที่ผ่านมาได้เร่งถมปรับพื้นที่จนแล้วเสร็จอย่างรวดเร็ว และขณะนี้ยังได้ระดมตอกเสาเข็มในพื้นที่โครงการก่อสร้าง บนเนื้อที่กว่า 60 ไร่ โดยที่ไม่ยอมหยุดรอฝังคำสั่งจากศาลปกครองก่อน เพื่อหวังใช้เป็นข้ออ้าง ในการร้องขอความเห็นใจว่าโครงการได้เดินหน้าไปไกลแล้ว จึงไม่สามารถที่จะล้มเลิกหรือหยุดไม่ให้มีโครงการเกิดขึ้นได้ทำให้ชาวบ้านมีความกังวลใจต่อผลการตัดสินที่จะออกมาในช่วงกลางสัปดาห์หน้านี้

และจากการเร่งระดมขนดินเข้ามาปรับถมพื้นที่ในช่วงที่ผ่านมา และการขนถ่ายอุปกรณ์ในการก่อสร้างของโรงไฟฟ้าดังกล่าว ยังส่งผลทำให้เส้นทางการสัญจรภายในหมู่บ้านเริ่มชำรุดทรุดโทรม เสียหายพังยับเยิน และมีน้ำขังอยู่บนพื้นผิวการจราจร จนทำให้ชาวบ้านใช้เส้นทางสัญจรผ่านอย่างยากลำบาก เนื่องจากมีรถบรรทุกขนาดใหญ่ บรรทุกวัสดุก่อสร้างขับเข้าออกพื้นที่อยู่ตลอดเวลา

ทั้งนี้ ในวันเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่ไม่ทราบว่ามีต้นสังกัดมาจากหน่วยงานใดจำนวน 4 คน แต่อ้างว่าเป็นทหาร ได้เข้ามาพบปะกับตัวแทนชาวบ้าน ซึ่งเป็นแกนนำในการเคลื่อนไหวยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง เพื่อสอบถามหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้

ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากถูกชาวบ้านออกมาร้องเรียนเคลื่อนไหวต่อต้านโรงไฟฟ้าดังกล่าวที่นำรถบรรทุกดินวิ่งเข้าออกจนทำให้ถนนทรุด เส้นทางพังเสียหาย จนมีน้ำท่วมขังเป็นแอ่งอยู่กลางท้องถนนเวลาฝนตก ขณะนี้ทางโรงไฟฟ้าได้เตรียมทำการก่อสร้างเส้นทางใหม่เข้าสู่โรงไฟฟ้าของตนเองแล้วด้วยการตัดถนนเส้นใหม่ เชื่อมจากถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-มีนบุรี เข้าสู่โครงการ ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นยังหาผู้รับผิดชอบไม่ได้



กำลังโหลดความคิดเห็น