เชียงราย- ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายนำหัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วย เข้าร่วมพิธีรำลึกผู้กล้าครบ 41 ปี ที่อำเภอเชียงแสน พร้อมกล่าวสดุดีผู้กล้าทั้ง 3 หน่วยงานทั้งทหารา ตำรวจ และพลเรือน ที่ยอมพลีชีพเพื่อชาติ
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า ที่อนุสรณ์สถานสามผู้กล้า พลเรือน ตำรวจ ทหาร ตั้งอยู่หมู่บ้านกว๊านเหนือ ม.9 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน นายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.เชียงราย พ.อ.พรชัย ดุริยพันธ์ รอง ผอ.กอ.รมน.เชียงราย นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ อดีตผู้บังคับบัญชาระดับสูง เจ้าหน้าที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชนเผ่า และประชาชนร่วมรำลึกการเสียสละของสามผู้กล้าในเหตุการณ์ในอดีต
ประกอบด้วย นายประหยัด สมานมิตร อดีตผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย พล.ต.ท.ศรีเดช ภูมิประหมัน อดีต ผกก.จ.เชียงราย และ พ.อ.จำเนียร มีสง่า อดีตผู้ช่วยหัวหน้ากองข่าวกองทัพภาคที่ 3 ที่เสียชีวิต ณ สถานที่ดังกล่าว จากการถูกกลุ่มก่อการร้ายลอบซุ่มโจมตีด้วยอาวุธเมื่อประมาณ 41 ปีก่อน
ในพิธีร่วมรำลึกมีการประกอบพิธีทางศาสนา และพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ เสร็จแล้วผู้ร่วมในพิธีวางพวงมาลาเป็นรายหน่วยงาน และประธานนำกล่าวสดุดีวีรกรรมของผู้กล้า ต่อด้วยวงดุริยางค์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์ กองทหารเกียรติยศยิงสลุต 10 นัด
นายสมชัย กล่าวว่าเหตุการณ์เสียสละของสามผู้กล้าดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ก.ย.2513 ซึ่งเป็นช่วงที่ยังมีปัญหาด้านผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ดังนั้น นายประหยัด พล.ต.ท.ศรีเดช และ พ.อ.จำเนียร ซึ่งมีหน้าที่ในขณะนั้นจึงได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการ ด้วยการพยายามเจรจาให้ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์มอบตัวต่อทางราชการ แต่ขณะเดินทางไปเจรจาได้ถูกคนร้ายซุ่มโจมตี ณ บริเวณอนุสรณ์สถานสามผู้กล้าดังกล่าว จนท่านต้องสละชีวิตตัวเอง ดังนั้น จึงได้ชื่อว่าเป็นวีรบุรุษของคนรุ่นหลัง
“การอุทิศชีวิตของพวกท่านผู้กล้าหาญเหล่านี้ นับว่า เป็นการเสียสละอย่างสูงสุด สมควรได้รับการสรรเสริญ ยกย่องเป็นวีรกรรมของวีรชนที่อยู่ในจิตใจของคนไทยทุกคน และเป็นพลังสำคัญในการกระตุ้นเตือนคนไทยทุกคนให้รักชาติบ้านเมืองและมีความกล้าหาญที่จะรักษาชาติไว้ด้วยยิ่งชีวิต
ดังนั้น ชาวเชียงราย และคนไทยขอสดุดีวีรกรรมที่ยิ่งใหญ่ของสามผู้กล้า พลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่ได้เสียสละชีวิตและเลือดเนื้อเพื่อแผ่นดินที่รักยิ่ง นับว่า ทุกท่านได้ปฏิบัติหน้าที่เยี่ยงบรรพบุรุษนักรบไทยที่นับจำนวนไม่ถ้วน ที่ต้องเอาเลือดทาผืนแผ่นดินแห่งนี้ เพื่อให้ลูกหลานไทยได้อาศัยอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีตราบจนปัจจุบัน” นายสมชัย กล่าว
