อุบลราชธานี - ระดับน้ำมูลที่สูงขึ้น ทำให้น้ำล้นตลิ่งสูงถึง 93 เซนติเมตร และไหลเร็วกว่า 3,200 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้โรงเรียนใน อ.วารินชำราบ ต้องปิดการเรียนการสอนอีก 1 โรง ส่วนชาวบ้านอีก 2 ชุมชน ต้องสร้างเพิงพักริมถนนหนีน้ำท่วม ด้านผู้ประกอบแพอาหารต้องสูญเสียรายได้วันละหลายแสนบาท
วันนี้ (12 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ระดับแม่น้ำมูลเพิ่มขึ้นอีก ส่งผลให้น้ำไหลท่วมโรงเรียนบ้านหาดสวนยา ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี สูงกว่า 30 เซนติเมตร ผู้อำนวยการโรงเรียนได้สั่งปิดการเรียนการสอนเป็นเวลา 7 วัน แต่ถ้าระดับน้ำไม่ไดีขึ้น จะสั่งปิดเพิ่มเติมอีก
สำหรับโรงเรียนบ้านหาดสวนยาเปิดสอนชั้นอนุบาลถึงระดับประถมปลายมีนักเรียนทั้งสิ้น 117 คน ครู 6 คน ถึงปัจจุบัน อ.วารินชำราบ มีโรงเรียนถูกน้ำท่วมจนปิดการเรียนการสอนไปแล้ว 2 โรง
ขณะที่ชาวบ้านในชุมชนหาดสวนยา รวมทั้งชุมชนหาดสวนสุขที่อยู่ใกล้เคียง น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนเพิ่มเติม โดยบ้านบางหลังถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร จึงอพยพครอบครัวมาสร้างเพิงพักชั่วคราวริมถนนสถิตย์นิมานกาล ซึ่งเป็นถนนเชื่อมระหว่าง อ.เมือง กับ อ.วารินชำราบ ประมาณ 15 ครอบครัว
แม่น้ำมูลยังส่งผลกระทบกับชุมชนหาดคูเดื่อ ต.แจระแม อ.เมือง ซึ่งให้บริการแพอาหารกับนักท่องเที่ยวกว่า 50 ร้าน ต้องปิดให้บริการทั้งหมดนานร่วม 1 สัปดาห์ เพราะน้ำไหลท่วมถนนและชุมชน โดยบางจุดมีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร
นางภาณี มุสะกะ อายุ 62 ปี เจ้าของแพอาหารที่หาดคูเดื่อกล่าวว่า มีรายได้จาการขายอาหารในวันปกติเฉลี่ยวันละ 3,000-4,000 บาท สำหรับวันหยุดมีรายได้สูงถึงวันละกว่า 10,000 บาท แต่ต้องหยุดให้บริการทั้งหมด เนื่องจากแม่น้ำมูลสูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำไหลท่วมถนนและอาคารร้านค้า จนไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ส่วนการฟื้นฟูหลังน้ำลด อาจต้องใช้เวลานานจนถึงปลายปี 2554 นี้
สำหรับความช่วยเหลือเฉพาะหน้า ต้องการให้รัฐบาลดูแลเรื่องอาหารการกิน เพราะพวกตนมีรายได้จากการขายอาหาร เมื่อหยุดดำเนินการเป็นเวลานาน ทำให้หลายครอบครัวเดือดร้อน
ขณะที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.อุบลราชธานี ระบุลักษณะอากาศตั้งแต่วันที่ 13-17 ก.ย.แนวโน้มมีฝนลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมาเหลือร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
