ทีมกู้ภัยพึ่งไสยศาสตร์จนพบศพเหยื่อโคลนถล่มเพิ่ม ชาวบ้านรับมีลางบอกเหตุ-แต่ไร้สัญญาณเตือน

พิษณุโลก - กู้ภัยเมืองอุตรดิตถ์พึ่งไสยศาสตร์ หาศพโคลนถล่มน้ำปาด แต่ยังไม่พบอีก 3 ราย นายกฯปูบินด่วนถึงที่เกิดเหตุ ยันพื้นที่ป่าต้นน้ำไม่ได้ถูกทำลายเพียงแค่ฝนตกหนัก ขณะที่ชาวบ้านยืนยันไม่มีสัญญาณเตือนภัยแน่นอน บอกแม้ถ้วยยูเรก้าวัดปริมาณน้ำฝนใบเดียวก็ไม่เคยมี

วันนี้ (11 ก.ย.54) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ดินโคลนถล่ม หลายหมู่บ้านใน ต.น้ำใผ่ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ จนมีผู้เสียชีวิต 7 คน มีบ้านเรือนเสียหายหลายสิบหลังนั้น ขณะนี้สภาพลำห้วยบ้านต้นขนุน-ห้วยเนียม เต็มไปด้วยซากต้นไม้และเศษวัสดุ รวมถึงก้อนหินขนาดใหญ่ที่ไหลลงมาจากภูเขาภูขัด-ภูเมี่ยง ในเขตอำเภอชาติตระการ จ.พิษณุโลก ทำให้สะพานที่ข้ามไปยังหมู่ 4,5 และ 6 พังเสียหาย จนหมู่บ้านดังกล่าวขาดการติดต่อจากโลกภายนอก ไม่มีไฟฟ้าใช้นับแต่เกิดเหตุ การให้ความช่วยเหลือต้องใช้ขบวนรถโฟว์วีลต้องนำเครื่องอุปโภคบริโภคไปส่งถึงหมู่บ้าน

ขณะที่ศูนย์ก่อสร้างและบูรณะสะพานที่ 1 พิจิตร กำลังดำเนินการสร้างสะพานแบริ่งให้เสร็จภายใน 1-2 วันนี้และเจ้าหน้าที่ไฟฟ้า ก็ได้ระดมกำลังซ่อมแซมเสาไฟฟ้าที่หักล้มอย่างเร่งด่วน และบ่ายวันเดียวกันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี หลายคนได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ จนทำให้สภาพการจราจรติดขัดไปทั้งตำบล

นายวีระศักด์ กมลวรเดช รองผู้อำนวยการกองบริการลูกค้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 2 ภาคเหนือ(พิษณุโลก) กล่าว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดินถล่มไฟฟ้าดับไปทั้งตำบลห้วยเดื่อและต้นขนุน ล่าสุดได้ส่งกระแสไฟเรียบร้อยแล้ว แต่วันนี้ กำลังปักเสาแรงสูงและแรงต่ำ ส่งผ่านไปยังหมู่ 4 บ้านห้วยคอม และหมู่บ้านที่อยู่ถัดไปคือ หมู่ 5และ 6 เพื่อบรรเทาความทุกข์ยาก ที่แม้บ้านจะไม่พังเสียหาย แต่ไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากเสาไฟเสียหายทั้งหมด 42 ต้น และหม้อแปลง 100 kv เสียหาย คาดว่าวันนี้เจ้าหน้าที่ระดมกำลังติดตั้งเสาไฟให้แล้วเสร็จพร้อมจ่ายกระแสไฟได้แน่นอน

ขณะที่การค้นหาศพ ล่าสุดเจ้าหน้าที่กู้ภัยวัดหมอนไม้ มูลนิธิร่วมกตัญญูฯลฯ นับร้อยเร่งค้นหาศพดังกล่าว ซึ่งวันนี้(11 ก.ย.) ได้ค้นหาศพเพิ่มอีกจำนวน 1 ราย เหลือเพียง 3 รายที่ยังหาไม่พบ ซึ่งเหตุโคลนถล่มครั้งนี้ มีผู้สูญหายทั้งสิ้น 7 คน

ทั้งนี้ ก่อนที่ทีมกู้ภัย จะค้นพบนางกัญญานี ซ้อมพิม (1 ใน 3 ราย) อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 34 หมู่ 3 เจ้าหน้าที่กู้ภัยวัดหมอนไม้ ต้องใช้วิธีไสยศาสตร์ โดยให้ น.ส.พรทิพย์ ซ้อมพิม ลูกสาว ซื้อเครื่องเซ่นไหว้ อาทิ ธูป, เทียน, ไก่ต้มจำนวน 1 ตัวและขนม, ยาเส้นและเหล้าเพื่อเปิดทางค้นหาศพให้พบ ระหว่างทำพิธี ต้องเจอกับเรื่องราวที่แปลกประหลาด โดยระหว่างเจ้าหน้าที่กู้ภัยวัดหมอนไม้อธิฐานเจ้าที่เจ้าทาง ก็มีหญิงไม่ทราบชื่อมีอาการคล้ายผีเข้าเข้าสิงและร้องห่ม ร้องไห้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ค้นหาศพก็ได้พบศพนางกัญญานี ในเวลาต่อมา สร้างความแปลกใจกับกลุ่มชาวบ้านห้วยขนุน

น.ส.วจี คำไวย์ หนึ่งในเหยื่อผู้ประสบภัยดินถล่ม อ.น้ำปาด เล่าว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นเร็วมาก ทุกคนรู้ว่าน้ำกำลังจะมา แต่ไม่คิดว่าทำให้บ้านพัง หลายคนกำลังย้ายของ และบางคนก็ขึ้นไปอยู่บนหลังคา แต่สุดท้ายก็ไม่รอด ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีเรื่องประหลาด อาทิ งูกัดกัน, แลน ซึ่งเป็นสัตว์ป่าชนิดหนึ่งโผล่เต็มไปหมด ระหว่างที่เกิดเหตุก็ได้ยินเสียงระเบิดอย่างดัง พร้อมๆกับได้กลิ่นคาวโคลนคลุ้ง ซึ่งชาวบ้านก็ทราบดี แต่ไม่ได้ทันตั้งตัว

“ที่แน่ๆ หมู่บ้านแห่งนี้ไม่มีสัญณาณเตือนแม้แต่อย่างเดียว ไม่ว่า ถ้วยวัดน้ำฝน หรือ สัญญาณไซเรนเตือนภัย แต่ยืนยันได้เลยว่า คนในหมู่บ้านนี้ ไม่ได้ตัดไม้ทำลายป่า เพราะต้นน้ำคือ อุทยานแห่งชาติคลองตรอน “

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สำภาษณ์กับผู้สื่อข่าวบริเวณห้วยบ้านต้นขนุน-ห้วยเนียมว่า บ้านเรือนที่ถูกดินถล่ม รัฐบาลกำลังจัดงบประมาณดูแลแก่ชาวน้ำปาดทุกคนตามระเบียบ พร้อมนำเรื่องเข้า ครม.อีกครั้ง หากผู้ที่เสียชีวิต เป็นหัวหน้าครอบครัว ก็จะหาอาชีพให้ใหม่พร้อมจ่ายเงินทดแทน รวมทั้งจ่ายค่าเสียหายบ้านเรือนที่พังทั้งหลัง ขณะนี้ได้สั่งให้เร่งค้นหาผู้สูญหายที่เหลือ จนพบแล้ว 4 ศพ เหลือเพียงอยู่ 3 ศพ

และจากที่พูดคุยกับชาวบ้าน เขายินดีที่จะย้ายจากจุดที่อยู่เดิมไปยังแห่งใหม่ สำหรับสาเหตุครั้งนี้ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาเรื่องการตัดไม้ทำลายป่า โคลนถล่มทั้งๆที่มีป่าไม้อยู่เหนือหมู่บ้านสมบูรณ์ เป็นเพียงเพราะฝนตกหนักเกิน 150 มิลลิเมตรในวันเกิดเหตุ ทำให้เกิดดินถล่ม แนวทางต่อไปก็ต้องป้องกันจุดเสี่ยงต่างๆ