ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ปภ.เชียงใหม่ ประกาศเตือนชาวบ้านแม่แตง เร่งขนสิ่งของและทรัพย์สินมีค่าขึ้นที่สูงป้องกันความเสียหาย หลังมีฝนตกหนักตลอดคืน ส่งผลให้น้ำแม่ปิงที่เชียงดาวเพิ่มระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง คาดไหลเข้าท่วมพื้นที่บ่ายนี้ (6 ก.ย.) ส่วนน้ำปิงช่วงไหลผ่านตัวเมืองยืนยันไม่มีล้นตลิ่งแน่ ขณะเดียวกันเผยหมู่บ้านเสี่ยงดินโคลนถล่มเพิ่มจำนวนขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ย้ำเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมงตลอดหน้าฝน
วันนี้ (6 ก.ย.) นายคมสัน สุวรรณอัมพา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตลอดคืนที่ผ่านมา (5 ก.ย.) ได้เกิดฝนตกอย่างหนักในพื้นที่อำเภอเชียงดาว ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่สถานีตรวจวัดระดับน้ำ P.20 ในอำเภอเชียงดาว มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 162 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งสูงกว่าเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ฝนตกหนักจนมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีและส่งผลให้เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
ดังนั้น เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ในเวลานี้ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ประสานไปยังทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ทำการประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ในพื้นที่ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง ทำการขนย้ายสิ่งของและทรัพย์สินมีค่าไปไว้บนที่สูงแล้ว โดยคาดว่า น้ำน่าจะไหลถึงพื้นที่อำเภอแม่แตงในช่วงบ่ายวันนี้
ส่วนแม่น้ำปิงในช่วงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่นั้น หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากการประสานงานกับทางสำนักงานชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ ได้รับการยืนยันว่า แม้ปริมาณน้ำที่ไหลมาจากอำเภอเชียงดาวจะมีมาก
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของน้ำแม่ปิงช่วงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ จะไม่เกิดภาวะล้นตลิ่งเข้าท่วมแต่อย่างใด โดยล่าสุดที่สถานีตรวจวัดระดับน้ำ P.1 เชิงสะพานนวรัฐ วัดระดับน้ำได้ 2.57 เมตร ขณะที่ระดับวิกฤติอยู่ที่ 3.70 เมตร
นอกจากนี้ นายคมสัน ยังกล่าวถึงความเสี่ยงที่จะเกิดดินโคลนถล่มในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า ในช่วงที่มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ต้องยอมรับว่าทุกพื้นที่มีความเสี่ยงเหมือนกันหมด ทั้งในพื้นที่ที่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นปกคลุมหรือไม่มีก็ตาม ซึ่งหากดินอุ้มน้ำไว้มากจนรับไม่ไหวสามารถเกิดเหตุการณ์ได้ทุกเมื่อ ดังนั้น จึงต้องมีการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ตลอดเวลา ทั้งนี้ ได้มีการประสานงานสั่งการไปยังทุกอำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน ให้เฝ้าระวัง พร้อมแจ้งเตือนภัยและรับสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว จนกว่าจะหมดฤดูฝน
สำหรับพื้นที่หมู่บ้านเสี่ยงภัยดินโคลนถล่มของจังหวัดเชียงใหม่นั้น นายคมสัน กล่าวว่า ตามฐานข้อมูลเดิมมีหมู่บ้านที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ทั้งเสี่ยงมาก ปานกลาง และน้อย รวมทั้งสิ้นประมาณ 1,000 หมู่บ้าน
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าปฏิทินภัยพิบัติได้มีการเปลี่ยนแปลงไปมากตามการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ว่าจำนวนหมู่บ้านเสี่ยงภัยน่าจะเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมแล้ว โดยเวลานี้กำลังเร่งทำการสำรวจเพื่อจัดทำฐานข้อมูลใหม่ที่มีความทันสมัยยิ่งขึ้น