xs
xsm
sm
md
lg

กาฬสินธุ์จับเพิ่มมอดไม้พะยูง แฉเสี่ย “ยะ” นายทุนสั่งตัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายรักษ์ ลี้ทรงศักดิ์ นายอำเภอสมเด็จ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบไม้พะยูงขนาดใหญ่ที่ตรวจยึดได้
กาฬสินธุ์ - กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดกาฬสินธุ์ กดดันแก๊งตัดไม้พะยูงอย่างหนัก ล่าสุดรวบผู้ต้องหาระหว่างบรรทุกไม้พะยูงพร้อมของกลาง 26 ท่อน ด้านผู้ต้องหาแฉใบสั่งเสี่ย “ยะ” นายทุนอำเภอคำม่วงนัดส่งไม้เข้าโกดังตั้งอยู่หลังสถานีตำรวจภูธรอำเภอคำม่วง

วันนี้ (28 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่หน้ากองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอสมเด็จ นายรักษ์ ลี้ทรงศักดิ์ นายอำเภอสมเด็จ เจ้าหน้าที่ อส.และเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าที่ กส.3 ภูพาน และเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าที่ กส.2 ดงแม่เผด จังหวัดกาฬสินธุ์ ทำการตรวจสอบไม้พะยูงขนาดใหญ่ 26 ท่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้บนถนนสายบ้านเหล่าภูพานไปบ้านโนนสามัคคี ตำบลมหาไชย พร้อมนายนพรัตน์ ปานทอง อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดสุรินทร์ ผู้ต้องหา ซึ่งนำรถกระบะอีซูซุดีแม๊ก สีบรอนเงิน หมายเลข บน 3366 กาฬสินธุ์ ของตนเองรับจ้างขนไม้พะยูงเพื่อส่งนายทุนในเขตอำเภอคำม่วง

นายนพรัตน์ ปานทอง ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ไม้ทั้งหมดรับมาจากชาวบ้านดงบัง ตำบลมหาไชย อำเภอสมเด็จ ด้วยค่าจ้าง 5,000 บาท ซึ่งได้นัดหมายไปส่งเสี่ย “ยะ” นายทุนซึ่งมีโกดังหลังสถานีตำรวจภูธรอำเภอคำม่วง ซึ่งเคยไปส่งมาแล้วครั้งหนึ่ง ผู้ต้องหายังบอกอีกว่า การตัดไม้พะยูง เนื่องจากไม้มีราคาสูง เฉลี่ยท่อนยาว 2-3 เมตร หน้ากว้าง 1 ฟุตขึ้นไปจะมีราคาถึงท่อนละ 1 แสนบาท จึงทำให้มีชาวบ้านขึ้นไปลักลอบตัดไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติภูพานเพิ่มขึ้น

ด้าน นายรักษ์ ลี้ทรงศักดิ์ นายอำเภอสมเด็จ กล่าวว่า ต้องการให้ทุกฝ่ายร่วมกันปกป้องไม้พะยูง เพราะในขณะนี้ตามนโยบายของ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กำชับให้ ทุกอำเภอที่มีเขตรอยต่อติดเขาเทือกเขาภูพานร่วมกันปกป้องไม้พะยูง ซึ่งกำลังตกอยู่ในภาวะความเสี่ยงที่จะหมดไปจากป่าภูพาน สิ่งสำคัญต้องการให้ออกกฎหมายเอาผิดอย่างเฉียบขาด ไม่ควรให้ประกันตัว ควรต้องโทษจำคุกทันที โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนพัวพันโดยเฉพาะรายนี้อาจจะมีคนมีสีไปเกี่ยวข้อง ซึ่งจะรายงานในทางลับเพื่อทำการจับกุมต่อไป

แหล่งข่าววงในระบุว่า การเข้าปราบปรามเครือข่ายตัดไม้พะยูงในปัจจุบันเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากการเข้าจับกุมหลายครั้งจะได้ของกลางจำนวนน้อย ทั้งนี้ เชื่อว่า เกิดจากปัญหาทางการข่าว ที่มีกลุ่มบุคคลคอยรายงานความเคลื่อนไหวให้กับเครือข่ายตัดไม้พะยูง และในระยะหลังการจับกุมส่วนใหญ่ยังเป็นฝีมือของกลุ่มเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและเจ้าหน้าที่ อส.ที่ไม่มีตำรวจในพื้นที่เข้าร่วมทำงาน


กำลังโหลดความคิดเห็น