ลำปาง - จำนวนผู้โดยสารที่เดินทางจากกรุงเทพฯขึ้นเหนือยังคงคึกคักไม่ต่างจากเดิม โดยผู้โดยสารยอมมาลงรถไฟสถานีลำปาง ก่อนจะขึ้นรถต่อเข้าเชียงใหม่ ขณะที่เส้นทางที่ถูกตัดขาดในจังหวัดลำพูนยังไม่มีกำหนดแล้วเสร็จหลังฝนตกสมทบอีก
วันนี้ (27 ส.ค.) ที่สถานีรถไฟลำปาง ครูผู้ควบคุมขบวนเด็กนักเรียนที่เดินทางจากกรุงเทพฯเพื่อจะไปทัศนะศึกษาที่จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต้องมาจัดระเบียบ และประสานงานพร้อมตรวจสอบรถโดยสารที่จะเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งหมดเพื่อ่ให้ทันเวลาที่ได้ได้นัดหมายและกำหนดไว้ ภายหลังที่ขบวนรถไฟจากต้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ซึ่งทั้งหมดมี 2 ขบวนประกอบด้วย ขบวนรถด่วนนครพิงค์ ซึ่งกำหนดจะต้องถึงสถานีลำปางในเวลา 04.58 น. และขบวนที่สองคือรถด่วนพิเศษ ขบวนที่ 13 กำหนดถึงลำปางปกติ 06.50 น. แต่ปรากฏว่ารถไฟทั้งสองขบวนกลับล่าช้าเกือบสามชั่วโมง
ส่วนสาเหตุของความล่าช้าที่เกิดขึ้น นายพนัส มงคลฤทธิ์ นายสถานีรถไฟนครลำปาง เผยว่า เนื่องจากขบวนรถไฟขาล่องมีจำนวนมากกว่าขาขึ้น ขณะที่รางรถไฟหลายจุดเป็นรางสายเดี่ยว ทำให้รถขบวนขาล่องและขาขึ้นวิ่งสวนทางกันไม่ได้ ดังนั้นขบวนรถขาขึ้นจึงต้องหยุดรถในหลายจุด เพื่อให้รถขาล่องวิ่งผ่านจุดนั้นๆไปก่อน ส่งผลให้รถไฟทั้งสองขบวนมาถึงลำปางล่าช้ากว่ากำหนดเกือบสามชั่วโมง
ส่วนจำนวนผู้โดยสารขาขึ้นนั้นพบว่าผู้โดยสารส่วนใหญ่ยังคงใช้บริการเหมือนเดิม โดยยอมที่จะมาลงรถที่ลำปาง และต่อรถโดยสารไปยังจังหวัดเชียงใหม่แทน
ขณะที่การซ่อมแซมทางระหว่างดอยขุนตาน-ทาชมภู อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน จุดที่น้ำเซาะใต้รางรถไฟจนต้องหยุดการเดินรถนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถซ่อมแซมได้เนื่องจากยังมีฝนตกลงมาสมทบ หากมีการนำเครื่องจักรหนักเข้าไปเกรงดินจะทรุดตัวลง และเป็นอันตรายได้ ทำให้ยังไม่สามารถกำหนดเวลาซ่อมแซมที่แน่ชัดได้