xs
xsm
sm
md
lg

เกิดเหตุสลด! ญาติผู้ป่วยโดดตึก รพ.นครพนม ดับ เหตุน้อยใจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครพนม - หนุ่มนครพนม โดดตึกโรงพยาบาลดับ เผย มาเฝ้าพ่อที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ น้อยใจถูกญาติต่อว่าที่ติดสุราหนัก เดินขึ้นชั้น 4 ดิ่งลงมาบาดเจ็บสาหัส แพทย์ยื้อสุดความสามารถ

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (23 ส.ค.) ร.ต.ท.กิติพล เกตุมาลา ร้อยเวร สภ.เมืองนครพนม ได้รับแจ้งเหตุมีคนโดดตึกโรงพยาบาลนครพนม ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงรายงานต่อ พ.ต.อ.พงศ์ศิริ เพ็ชรหว้าโง๊ะ ผกก.สภ.เมืองนครพนม ทราบ พร้อมเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยแพทย์ พยาบาล ได้นำผู้ได้รับบาดเจ็บ มาให้การรักษาที่ห้องฉุกเฉินภายในโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อคือ นายกฤษดา วงศ์ศรีชา อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 129 หมู่ 10 ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม

สอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้มาเฝ้าไข้ นายกันหา วงศ์ศรีชา อายุ 50 ปี ผู้เป็นพ่อ ที่ป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ รักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพนม โดยพักรักษาที่ตึกศัลยกรรมชาย ชั้น 3 อาคาร 67 ปี ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2554 แต่ผู้ตายเป็นคนติดสุรา มีนิสัยชอบดื่มเป็นประจำ ทำให้ญาติที่มาเยี่ยมพ่อต่อว่า

จนเป็นเหตุให้น้อยใจคิดสั้น จนกระทั่งเดินขึ้นไปทางบันไดหนีไฟชั้น 4 และกระโดดลงมาถึงพื้นดิน นอนแน่นิ่ง

เจ้าหน้าที่พบเห็นจึงช่วยกันนำส่งห้องฉุกเฉิน ซึ่งทางแพทย์ และพยาบาล พยายามช่วยชีวิต แต่ไม่สามารถช่วยไว้ได้ จนเสียชีวิตตามมา

จากการสอบถาม นายกันหา วงศ์ศรีชา อายุ 50 ปี ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่า ตนได้มารักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวันแล้ว โดยมีลูกชายคือผู้ตาย มาเฝ้าเพียงลำพัง แต่ก็ไม่เคยบ่นน้อยใจเรื่องอะไรให้ตนฟังเลย ก็มีอาการปกติ แต่ส่วนตัวชอบดื่มเหล้า ส่วนที่มาของสาเหตุการโดดตึกนั้นไม่ทราบ เพราะลูกชายไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง

ก่อนเกิดเหตุก็ได้เดินมาบอกว่า จะออกไปสูบบุหรี่ จากนั้นไม่นานมีคนมาบอกว่าลูกชายตกตึกเสียชีวิต โดยไม่รู้ว่ามาจากสาเหตุอะไร

ทางด้าน นายจรัญ ทองทับ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม กล่าวว่า กรณีดังกล่าวได้สอบสวนเจ้าหน้าที่ และญาติของผู้ตายเบื้องต้น ทราบว่า ผู้ตายมีอาการติดสุรา แต่ได้มาเฝ้าพ่อที่ป่วยรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล จากนั้นได้มีญาติที่มาเยี่ยม ได้ต่อว่าถึงเรื่องอาการติดสุรา ทั้งที่พ่อก็ป่วย จึงอาจเป็นสาเหตุให้น้อยใจจนคิดสั้น ก่อนเดินขึ้นไปบนชั้น 4 กระโดดลงมา ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล ได้เร่งช่วยเต็มที่

แต่ก็สุดความสามารถ หลังจากเกิดเหตุจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาทำการสอบสวน เพื่อหาสาเหตุโดยละเอียด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น