มหาสารคาม -ทนายความ นปช.ยื่นขอประกันเสื้อแดงมหาสารคาม ที่ถูกจำคุกในเรือนจำ เบื้องต้นวางหลักทรัพย์ขอประกันผู้ต้องหา 3 คนก่อน ส่วนอีก 6 คน ต้องรอ ส.ส.มาแสดงตนพร้อมหลักฐานเพิ่ม
วันนี้ (22 ส.ค.) ที่ศาลจังหวัดมหาสารคาม กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ หรือ นปช.กว่า 50 คน พร้อมด้วย นายไชยวัฒน์ ติณรัตน์ ส.ส.มหาสารคาม เขต 2 นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท ส.ส.มหาสารคาม เขต 5 และ นายฉลาด ขามช่วง ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 2 ได้เดินทางมาเซ็นเอกสาร และนำหลักทรัพย์มามอบให้กับ นายคารม พลพรกลาง ทนายความกลุ่ม นปช.
ทั้งนี้ เพื่อใช้ยื่นเป็นหลักทรัพย์ ขอปล่อยตัวชั่วคราวนักโทษ นปช.3 ใน 9 คน ที่ถูกศาลจังหวัดมหาสารคาม ตัดสินจำคุก 5 ปี 8 เดือน ในข้อหาวางเพลิง-ตระเตรียมการวางเพลิง ที่บริเวณที่ว่าการอำเภอเมืองมหาสารคาม เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 โดยศาลได้พิพากษาตัดสินคดีไปเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553
นายคารม พลพรกลาง ทนายความกลุ่ม นปช.กล่าวว่า ในวันนี้ได้มายื่นขอประกันตัวขอให้ศาลปล่อยตัวชั่วคราวนักโทษ นปช.จำนวน 3 คน คือ นายอุทัย คงหา นายไพรัช จอมพรรษา และนายเดชอดุลย์ เดชบุรัมย์ โดยให้ ส.ส.ทั้ง 3 คนที่มาในวันนี้ เขียนคำร้องประกอบการขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยใช้ตำแหน่ง ส.ส.และหลักทรัพย์คนละ 5 แสนบาท รวม 1,500,000 บาท เพื่อยื่นต่อศาล ส่วนศาลจะพิจารณาอย่างไรก็ให้อยู่ในดุลยพินิจของศาล
วันนี้ (22 ส.ค.) ที่ศาลจังหวัดมหาสารคาม กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ หรือ นปช.กว่า 50 คน พร้อมด้วย นายไชยวัฒน์ ติณรัตน์ ส.ส.มหาสารคาม เขต 2 นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท ส.ส.มหาสารคาม เขต 5 และ นายฉลาด ขามช่วง ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 2 ได้เดินทางมาเซ็นเอกสาร และนำหลักทรัพย์มามอบให้กับ นายคารม พลพรกลาง ทนายความกลุ่ม นปช.
ทั้งนี้ เพื่อใช้ยื่นเป็นหลักทรัพย์ ขอปล่อยตัวชั่วคราวนักโทษ นปช.3 ใน 9 คน ที่ถูกศาลจังหวัดมหาสารคาม ตัดสินจำคุก 5 ปี 8 เดือน ในข้อหาวางเพลิง-ตระเตรียมการวางเพลิง ที่บริเวณที่ว่าการอำเภอเมืองมหาสารคาม เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 โดยศาลได้พิพากษาตัดสินคดีไปเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553
นายคารม พลพรกลาง ทนายความกลุ่ม นปช.กล่าวว่า ในวันนี้ได้มายื่นขอประกันตัวขอให้ศาลปล่อยตัวชั่วคราวนักโทษ นปช.จำนวน 3 คน คือ นายอุทัย คงหา นายไพรัช จอมพรรษา และนายเดชอดุลย์ เดชบุรัมย์ โดยให้ ส.ส.ทั้ง 3 คนที่มาในวันนี้ เขียนคำร้องประกอบการขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยใช้ตำแหน่ง ส.ส.และหลักทรัพย์คนละ 5 แสนบาท รวม 1,500,000 บาท เพื่อยื่นต่อศาล ส่วนศาลจะพิจารณาอย่างไรก็ให้อยู่ในดุลยพินิจของศาล