xs
xsm
sm
md
lg

หอฯศรีสะเกษ ยัน อช.เขาวิหารจำเป็นต่อการค้า-ท่องเที่ยว หวั่นเขมรฮุบทำเศรษฐกิจฝั่งไทยพัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศรีสะเกษ - ประธานหอการค้าศรีสะเกษ เผย เปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นประโยชน์ต่อการค้าการท่องเที่ยวของ จ.ศรีสะเกษ เป็นอย่างมาก ชี้ หากกัมพูชาขอดูแลปราสาทพระวิหารเพียงผู้เดียว คงจะเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมได้ลำบาก ส่วนเรื่องค่าแรงวันละ 300 บาทนั้น ในส่วนของ จ.ศรีสะเกษ เป็นเรื่องที่จะทำได้ยากมาก

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (21 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่า ในวันนี้เป็นวันหยุดราชการได้มีบรรดานักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศพากันเที่ยวชมความสวยงามของผามออีแดงกันอย่างคึกคักมาก โดยนักท่องเที่ยวจะพากันส่องกล้องดูความสวยงามของปราสาทพระวิหาร และจะพากันเดินไปที่ประตูเหล็กที่กั้นระหว่างไทยกับกัมพูชา และร้องตะโกนโบกมือทักทายกับชาวกัมพูชา ซึ่งชาวกัมพูชาได้โบกมือตอบอย่างมีไมตรีที่ดีต่อกัน

โดยมีทหารพรานจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และ ตำรวจ สภ.บึงมะลู มาคอยดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ประธานหอการค้า จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า การเปิดประตูเหล็กไปสู่ปราสาทพระวิหารนั้น ตอนนี้ใกล้จะเป็นจริงแล้ว แต่คงจะต้องดูท่าทีกันไปอีกซักระยะหนึ่งก่อน เพราะยังไม่รู้ท่าทีของกัมพูชา ว่า กัมพูชาจะมีท่าทีอย่างไร เพราะตนเชื่อว่า ถ้ากัมพูชายังเดินหน้าขอประสาทพระวิหารขึ้นเป็นมรดกโลก โดยการดูแลของประเทศกัมพูชาแต่เพียงผู้เดียว ก็อาจจะมีการต่อต้านจากหลายฝ่าย สถานการณ์ก็อาจจะยังไม่สู้ดีนัก ซึ่งตนคิดว่าต้องหาข้อสรุปให้ได้เสียก่อน

ประธานหอการค้า จ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของค่าแรงงานวันละ 300 บาทนั้น ตนต้องขอเรียนว่า จ.ศรีสะเกษ จ้างแรงงานวันละ 300 บาท น่าจะค่อนข้างลำบาก เพราะตนได้ฟังจากผู้ประกอบการหลายๆ คน เนื่องจากว่า จ.ศรีสะเกษ มีรายได้ประชากรต่อหัวต่ำที่สุดในประเทศไทย ค่าครองชีพของเราอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างต่ำ ถ้าไปเทียบกับจังหวัดอื่นๆ

ดังนั้น การที่จะไปขึ้นค่าแรงงานวันละ 300 บาทนั้น เหมือนกับเป็นการที่ค่อนข้างจะฝืนสภาวะเศรษฐกิจและฝืนธรรมชาติ เนื่องจากว่า ปกติค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำจะขึ้นตามค่าครองชีพ ซึ่งค่าครองชีพที่สูงขึ้น แรงงานซึ่งใช้แรงงานได้ค่าแรงขั้นต่ำ ไม่สามารถที่จะครองชีพได้ เราก็ปรับขึ้นให้ตามสภาพความเป็นจริง แต่ปัจจุบันถ้าคิดว่า จะนำนโยบายค่าจ้างแรงงานวันละ 300 บาท มาบังคับใช้ ก็เท่ากับว่า ค่าแรงงานจะนำค่าครองชีพไปแล้ว

ซึ่งหมายความว่า ค่าครองชีพที่จะสูงขึ้น และผู้ที่มีผลกระทบมากที่สุด ก็คือ ข้าราชการซึ่งไม่ได้รับประโยชน์จากนโยบายนี้ กับผู้ประกอบการ ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะค่าแรงงานถือว่าเป็นต้นทุนโดยตรงของเขาเลยทีเดียว
กำลังโหลดความคิดเห็น