ฐานทัพเรือสัตหีบ เปิดโครงการ “ครอบครัวชิงดี” เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระราชินี

ศูนย์ข่าวศรีราชา - กรมก่อสร้างและพัฒนา ฐานทัพเรือสัตหีบ ดำเนินโครงการ “ครอบครัวชิงดี”ติดอาวุธทางปัญญา เปลี่ยนวิถี แนวคิด การปฏิบัติตน คิดค้นแนวทางการดำเนินชีวิต ทุกความดีมีคนค่าให้ข้าราชการ และครอบครัว มีความเป็นอยู่อย่างปกติสุข ลดความขัดแย้ง พ่อ แม่ บุตร เพื่อนร่วมงาน เพื่อนบ้าน และสังคม

พลเรือโท ชัชรินทร์ ชูศรี ผู้บัญชาการ ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “ครอบครัวชิงดี” เฉลิมพระเกียรติ และถวายเป็นพระราชกุศล แด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสทรงมีพระชนมายุครบ 79 พรรษา ด้วยการติดอาวุธทางปัญญาให้ข้าราชการ ครอบครัว ได้ประพฤติดี ปฎิบัติชอบต่อพ่อ แม่ ครู อาจารย์ ตัวเอง ครอบครัว ผู้ใต้บังคับบัญชา ผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน ตลอดจนประชาชนในท้องถิ่น และสังคมให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข ลดความขัดแย้ง ลดปัญหา เสริมสร้างความเข้าใจ ความรัก ความสมัครสมานสามัคคี

นาวาเอก วิรัตน์ สมจิตร ผู้บังคับการ กรมก่อสร้างและพัฒนา ฐานทัพเรือสัตหีบ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการดำเนินโครงการว่า เพื่อให้เกิดความเป็นรูปธรรมต่อการดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันมากขึ้น ด้วยการยึดการสร้างคุณงามความดีต่อกัน และสังคมภายนอก แม้แต่การเป็นผู้มีจิตอาสา มีจิตเมตตาจูงคนตาบอดข้ามถนน อีกทั้งให้บุตรบันทึกความดีที่กระทำต่อพ่อ แม่ ครู อาจารย์ ญาติพี่น้อง ภรรยาบันทึกความดีที่กระทำต่อสามี และสามีบันทึกความดีที่กระทำต่อภรรยา อันจะนำไปสู่การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข แผ่กระจายไปสู่วงกว้างของสังคม ประเทศชาติ

ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจากวิทยากรพิเศษ ดร. ธัญดา ธัญทิพพสาร หรือ วัน ผู้ชนะเลิศการประกวดโครงการ “สาวมั่นเป็นเลิศแห่งสหัสวรรษ” “Top Woman Top Confidence 1999” Award โดยนิตยสาร ELLE ร่วมกับ ผลิตภัณฑ์ Resonaปริญญาตรีบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ปริญญาโทบริหารธุรกิจ สาขาการเงิน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ปริญญาเอกการปฏิรูปเพื่อการพัฒนาองค์กร มหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ ซีบู ฟิลิปปินส์ผู้ก่อตั้งโครงการ “ One ปันบาท ” โครงการที่สร้างสรรค์พัฒนาวิธีคิดแบบจิตอาสาสู่การช่วยเหลืออย่างยั่งยืน ด้วยการเริ่มต้นจากเงิน 1,000 บาท ที่ปรึกษาผู้บังคับการ กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ที่ปรึกษากระทรวงวัฒนธรรม (Creative City) ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการติดตามองค์กรพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา อื่น ๆ อีกจำนวนมาก มาบรรยายและให้แนวคิดในการเก็บเกี่ยว สะสม ความดี หรือการชิงดีกันภายในครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติ

นาวาเอก วิรัตน์ สมจิตร ผู้บังคับการกรมก่อสร้างและพัฒนา ฐานทัพเรือสัตหีบ กล่าวว่า ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่า ความขัดแย้งได้เกิดขึ้นตั้งแต่ภายในครอบครัว เพราะความคิดเห็นไม่ตรงกัน สิ่งที่จะแก้หรือเยียวยาให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ก็คือ การสร้างสมความดีต่อกันที่อาจถูกมองข้ามไป โดยเฉพาะความดีที่จะต้องก่อเกิด และปลูกฝังกันภายในครอบครัวเป็นอันดับแรกตั้งแต่พ่อ แม่ บุตร และการปฏิบัติต่อบุคคลรอบข้าง เพราะคุณงาม ความดีเล็กน้อย ๆ ที่ถูกมองข้าม ถ้าปฏิบัติบ่อย ๆ ก็จะก่อให้เกิดความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ ความรัก สงสาร จนถึงความผูกพันที่ต้องช่วยกันรักษาไว้ให้ยาวนาน หลายเรื่องที่ภายในครอบครัวได้ปล่อยปะละเลยต่อกัน

เช่น สามีไม่พึงปฏิบัติต่อภรรยา ภรรยาไม่พึงปฏิบัติต่อสามี พ่อแม่ไม่พึงปฏิบัติต่อบุตร และบุตรไม่พึงปฏิบัติต่อพ่อแม่ เพราะปล่อยให้เป็นหน้าที่รับผิดชอบต่อคนใดคนหนึ่ง จึงทำให้เกิดเป็นรอยร้าวลึกขึ้นทุกวัน เมื่อสายเกินไปก็จะไม่สามารถเยียวยาได้ บางครอบครัวต้องหย่าร้างกันไปเพราะคิดว่าใช้ชีวิตร่วมกันแบบเห็นแก่ตัว ฉะนั้น โครงการครอบครัวชิงดีจึงเป็นอีกโครงการหนึ่งที่ถวายเป็นพระราชกุศล และเฉลิมพระเกียรติแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ด้วยการสร้างคุณงามความดีต่อกัน

พลเรือโท ชัชรินทร์ ชูศรี ผู้บัญชาการ ฐานทัพเรือสัตหีบ กล่าวว่า นับเป็นโอกาสอันดีที่ทางด้าน นาวาเอก วิรัตน์ สมจิตร ได้ดำเนินโครงการ ครอบครัวชิงดี ให้กับข้าราชการ และครอบครัว เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ครอบครัวข้าราชการทหารนั้น ไม่ปกติเหมือนกับอาชีพอื่น ๆ สามีจะต้องออกไปปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ไปราชการทั้งในประเทศ และต่างประเทศ จึงไม่ค่อยมีเวลาในการดูแลภรรยา และบุตร ความอบอุ่นจึงมีน้อย บางครอบครัวถึงกับต้องแยกทางกัน

สาเหตุหนึ่งก็คือขาดความเข้าใจต่อกัน ขาดความอดทน และความผูกพัน แนวคิดของการดำเนินโครงการ ครอบครัวชิงดี จึงเป็นความเป็นรูปธรรมมากขึ้น ทุกคนจะต้องร่วมกันชิงดีในการสะสมความดีต่อกัน สิ่งที่ตามมาก็คือความรัก ความสามัคคี ด้วยการใช้ความดีที่ปฏิบัติต่อกันเป็นสิ่งยึดเหนี่ยว เชื่อมั่น ศรัทธาต่อกันอีกด้วย